“ปารีณา” ครวญ! บริสุทธิ์ใจ ปมรุกป่าราชบุรี เปรียบเหมือนถูกคำสั่ง “ประหารชีวิต”

85

เจอกันนอกสภา!‘ปารีณา’เคลื่อนไหวกลางดึก โชว์ผลงาน ส.ส.ประกอบเพลง‘คนดีไม่มีวันตาย’ เปรียบความผิดถูกลงโทษสูงสุด ถูก‘ประหารชีวิตทางการเมือง’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 7 เมษายน 2565 น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ , ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี จากคดีรุกป่า โพสต์คลิปเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ประกอบภาพกิจกรรมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาของเธอ ผ่านทางเฟซบุ๊ก “ปารีณา ไกรคุปต์” พร้อมข้อความดังนี้…

“ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีบนถนนการเมือง ปารีณาตั้งใจทำหน้าที่ผู้แทนทั้งในสภา และนอกสภาอย่างเต็มที่ ปารีณาทุ่มเทจิตใจ และทุนทรัพย์ให้กับพวกพ้องและพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ได้รับการยอมรับ และชนะเลือกตั้งตลอด ไม่เคยสอบตก วันนี้ ปารีณา ถูกพิพากษาลงโทษอย่างรุนแรง ไม่สามารถสมัครอะไรได้ตลอดชีวิต

ปารีณา บริสุทธิ์ใจ สุจริตใจ จึงได้แจ้งต่อ ป.ป.ช. ด้วยตนเองว่าครอบครองทำประโยชน์อยู่บนที่ดิน ภบท5

พบว่า..สปก มีการประกาศเขตสปก จังหวัดราชบุรี แต่มิได้ประกาศกำหนดว่าซอยไหน ส่วนไหนของราชบุรี เป็น สปก ไม่มีแม้แต่ป้าย กำนันผู้ใหญ่ก็ไม่ทราบว่าตรงไหนเป็นหรือไม่เป็นสปก สปกวิ่งผ่านที่ดินฟาร์มไก่ ก็ไม่เคยทักท้วงหรือดำเนินคดี จนกระทั่งมีคนร้องเรียนว่าปารีณาบุกรุกป่า นำไปสู่การตรวจสอบและพบว่าที่ดินผืนดังกล่าว ไม่ใช่ป่า แต่เป็นพื้นที่ สปก ทั้งหมด ที่ยังไม่ได้มีการจัดสรรให้แก่ราษฎร (ยังไม่ได้จัดสรรแปลว่ายังไม่ได้เกิดความเสียหายหรือยังไม่ได้มีการแย่งที่ทำกิน) แต่มีการใช้งบประมาณดำเนินการแผนงานไปแล้ว และเหตุผลที่ยังไม่มีการจัดสรรเพราะ สปก. มีกำลังคนและงบประมาณที่จำกัด

พอปารีณาทราบว่าเป็น สปก จึงทำหนังสือส่งมอบคืนที่ดินพร้อมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้สปก ส่วนเพื่อนบ้านพอทราบว่าพื้นที่แถวนั้นเป็น สปก ก็เพิ่งจะไปออก สปกกัน #ภายหลัง จากมีเรื่อง ปารีณา ถูกพิพากษาว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง เสื่อมเสีย ตัดสิทธิ์สมัครตลอดชีวิต ปารีณา และพี่ทนายทิวา ได้พยายามอย่างสุดความสามารถในการสู้คดีแสดงให้ศาลเห็นและหวังจะได้ความเมตตาจากศาล ศาลก็เมตตา ปารีณา ขอกราบขอบพระคุณศาลในความเมตตา และขอน้อมรับคำพิพากษา

วันนี้ ความผิดของ ปารีณา เปรียบได้กับการลงโทษสูงสุด การลงโทษในคดีมีหลายระดับ คือ เริ่มจากปรับ จำคุก หรือประหารชีวิต ปารีณา ถูกพิพากษาเปรียบเสมือนทำผิดร้ายแรงถูกประหารชีวิต (ทางการเมือง) จากที่ดินพ่อให้มา และนี่คือคดีที่จะเป็นบรรทัดฐานต่อนักการเมืองและข้าราชการต่อไป

ถึงแม้ ปารีณา ไม่สามารถเป็นผู้แทนของท่านได้อีกต่อไป ปารีณา ขอขอบคุณทุกกำลังใจ และจะขอยึดมั่นอุดมการณ์ของปารีณาต่อไป และเราจะได้พบกันอีก

#ปิดฉากปารีณาไม่เชิญก็ไปมีอะไรก็มา #ผู้แทนบ้านๆฉบับปารีณา #เกมส์ในสภา แต่พบกันอีกเร็วๆนี้นอกสภานะคะ”