เชื่อหรือไม่ ? !! เหตุของสงครามครั้งนี้ เพียงเพราะ สหรัฐฯต้องการเพิ่มเศษฐกิจในประเทศ

100

กรณีที่มีการแพร่ภาพและเรื่องการใช้อาวุธเคมีในซีเรียก่อนที่อเมริกาจะถล่มซีเรียด้วยโทมาฮอว์คครึ่งร้อยตามคำสั่งทรัมป์ ที่ CIA กำกับ

ทำให้หวลนึกถึงสันดานมะกัน เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเรื่องอาวุธนิวเคลีย์ ที่สหรัฐฯ สร้างสื่อโฆษณาชวนเชื่อชาวโลก สร้างข่าว/สร้างวาทกรร โจมตีฝ่ายตรงข้ามที่มีอาวุธนิวเคลีย์เหมือนกัน จนหลายประเทศมีภาพเป็นผีห่าซาตานแสนเลวร้ายแห่งโลก ไม่ว่ารัสเซีย จีน เกาหลี หรือกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งสหรัฐฯ อ้างว่าประเทศเหล่านั้นเป็นภัยคุกคามโลก!

แต่ที่สุดแล้วไม่เคยมีประเทศใหนเคยใช้อาวุธนิวเคลีย์เลย! มีแต่สหรัฐฯ นี้แหละ ที่เอาไปถล่มฮิโรชิมา นางาซากิ จนญี่ปุ่นเกือบสูญพันธุ์!

มาคราวนี้สร้างวาทกรรม/ สร้างภาพว่า อัลซาต ผู้นำซีเรียใช้อาวุธเคมี มะกันเลยต้องถล่มด้วยอาวุธหนักไปเกือบ 60 ลูก การกระทำครั้งนี้ อเมริกาหวังผล 3 เด้งคือ 1) ได้ทำลายภาพรัฐบาลซีเรียและฝ่ายสนับสนุนคือรัสเซีย 2) ได้ล้างแค้นตอบโต้ซีเรีย ที่มันอยากยึดครองใจจะขาด 3) ได้ช่วยพวกมนุษย์สุดเกรียนสุดโหด อย่างกลุ่ม ISIS ที่ CIA ปั้นสร้างมากับมือ (แต่ชาวโลกมาจับได้ถึงความเลวร้ายของกลุ่มนี้ จึงไม่เอาด้วย)

นี่คือกำพืช อเมริกันโดยแท้ แหละที่สำคัญคือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในประเทศเองไม่ได้ผล ตามที่ทรัมป์หวัง เพราะเศรษฐกิจอเมริกาที่เลี้ยงตัวมาได้ ในยุคที่เป็นตำรวจโลก คืออุตสาหกรรมสงครามและความมั่นคง กับการค้าดอลล่าร์ ที่ปั่นให้สังคมโลกใช้เป็นธนบัตรกลาง ในการแลกเปลี่ยนซื้อขายระหว่างประเทศ แต่วันนี้การค้าโลกเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ค่อยมีสงคราม และการค้ายุคใหม่ก็มุ่งใช้เงินสกุลท้องถิ่น หรือไม่ก็เงินอีเลคโทรนิคแทนเงินสด และไม่ขึ้นกับดอลล่าร์มากมายอีกต่อไป

งานนี้สหรัฐฯ จึงใช้พฤติกรรมเดิมๆ ภายใต้การบงการของ CIA และความร่วมมือลับ ๆ กับกลุ่ม ISIS ลูกสมุนที่ทำคลอดมากับมือ ภายใต้การสร้างวาทกรรมชวนเชื่อแนวถนัด เพื่อจะดึงโลกเข้าสู่สภาวะสงครามอีกครั้ง

ขอให้ใตร่ตรองให้ดีก่อนตกหลุมพรางข่าวสารมะกัน ที่กำลังจนตรอก ซึ่งวันนี้แสดงความหื่นกระหายหิวเห็นแก่ตัว ตามนโยบาย “อเมริกา ต้องมาก่อน” ซึ่งกำลังง่อยเปลี้ย ไม่ได้รับความเชื่อถือจากชาวโลกในกระแสข่าวสารยุคใหม่แล้ว