เปิดข้อหา’ประธานไอแบงก์และพวก’ปล่อยกู้มิชอบ ธนาคารเสียหาย

710

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลเรื่องกล่าวหา นายกฤษดา กวีญาณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กับพวก อนุมัติสินเชื่อลูกค้ารายบริษัท เดอะไวท์บีช จำกัด และบริษัท เดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด โดยมิชอบ

ข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา  ได้รับการยืนยันข้อมูลเป็นทางการจากแหล่งข่าวในธนาคารอิสลามฯ ว่า ข้อกล่าวหา ที่นายกฤษดา กวีญาณ อดีตประธานกรรมการบริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กับพวก ถูก ป.ป.ช. สอบสวนและชี้มูลในคดีนี้ เป็นกรณีการอนุมัติและจ่ายเงินสินเชื่อให้กับกลุ่มบริษัท เดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด ซึ่งมีการคำนวณวงเงินรวมทั้งกลุ่มวงเงินกว่า 1,905 ล้านบาท โดยไม่มีอำนาจ และมีการให้เบิกสินเชื่อไปก่อนกว่า 430 ล้านบาท โดยไม่มีเหตุเร่งด่วน

หลังจากกลุ่มบริษัทเดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด ได้ยื่นคำร้องขอสินเชื่อ แยกเป็น กรณีบริษัท เดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด ขออนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อใช้ในโครงการ “Luxury Pool Villas Resort & Spa” วงเงินรวม 650 ล้านบาท บริษัท เดอะ ไวท์ บีช จำกัด วงเงิน 400 ล้านบาท และบริษัท เดอะทวิน เรสซิเด้นท์ จำกัด วงเงิน 855 ล้านบาท รวมจำนวน 1,905 ล้านบาท ซึ่งระดับอำนาจอนุมัติวงเงินรวมนี้ อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการธนาคาร มิใช่อำนาจคณะกรรมการบริหาร

โดยการพิจารณารวมกลุ่มบริษัทเพื่อพิจารณาสินเชื่อ เมื่อ ปี พ.ศ.2552 – 2554 นั้น เป็นไปตามนโยบายธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยว่าด้วยนโยบายสินเชื่อ พ.ศ.2551 ซึ่งข้อ 7.2.5 หลักเกณฑ์การนับลูกค้ารายเดียวกันหรือกลุ่มเดียวกันเพื่อกำหนดอำนาจอนุมัติสินเชื่อ และกำหนดผู้ดูแลลูกค้า วรรคท้าย คำว่า “ข้อมูลอื่นใดที่แสดงความสัมพันธ์” หมายความว่าข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่แสดงความสัมพันธ์ของลูกค้าซึ่งมีนัยยะสำคัญนอกเหนือจากข้อ 1-4 ธนาคารฯ ก็สามารถจัดกลุ่มบริษัทลูกค้าที่มาขอสินเชื่อรวมกันได้ เช่น บุคคลที่เป็นผู้บริหารโดยพฤตินัยในกลุ่มบริษัทเดียวกัน เป็นต้น

ดังนั้น จึงแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการบริหารทราบดีอยู่แล้วว่าอำนาจอนุมัติสินเชื่อกรณีดังกล่าวอยู่ที่คณะกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ขณะที่ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8/2554 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2554 กรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยรายหนึ่ง มีข้อสังเกตเรื่องการขอสัตยาบัน ว่าหากไม่มีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วนจริงไม่ควรอนุมัติให้ดำเนินการก่อนขออนุมัติต่อผู้มีอำนาจอนุมัติ โดยที่ประชุมมีมติ อนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อใช้ในโครงการ “Luxury Pool Villas Resort & Spa” วงเงินรวม 650 ล้านบาท และอนุมัติให้สัตยาบัน ภายใต้ข้อมูลเอกสารสิทธิตามกฎหมายที่ได้รับจากบริษัท อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด และต้องไม่มีการขอสัตยาบันในลักษณะนี้อีก

รายงานการประชุมดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นว่าการอนุมัติให้ดำเนินการก่อนขออนุมติต่อผู้มีอำนาจอนุมัติ แล้วจึงมาขอสัตยาบันในภายหลังไม่ใช่กระบวนการอนุมัติสินเชื่อตามปกติ และบริษัท เดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด ลูกหนี้ได้เบิกสินเชื่อค่าที่ดินแล้วทั้งจำนวน 430 ล้านบาท ก่อนที่จะนำเสนอคณะกรรมการธนาคารให้สัตยาบันในภายหลัง ทำให้คณะกรรมการธนาคารมีข้อทักท้วงให้ทบทวนข้อเท็จจริงและเสนอความเห็นเพิ่มหลายประการ และมีการทักท้วงไว้ว่าต้องไม่มีการขอสัตยาบันในลักษณะนี้อีก

ประกอบกับบริษัท เดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด นั้น ปรากฏข้อมูลว่าหลังจากบริษัท เดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด ได้ซื้อที่ดินจาก บริษัท เดอะไวท์ บีช จำกัด แล้ว ได้มีการขอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผ่านการประเมินผลกระทบแล้ว แต่ต่อมาได้มีเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ เมื่อปี 2554 เกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ช่วงปี 2556 -2557 การปฏิวัติรัฐประหารเมื่อปี 2557 และโรคระบาด COVID – 19 จึงยังไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างและยังไม่ได้ดำเนินการสร้างโรงแรมเพื่อประกอบกิจการ จนถึงปัจจุบัน

กรณีของบริษัท เดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จึงไม่ปรากฏเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันใด ที่จะต้องมีการให้เบิกใช้วงเงินสินเชื่อค่าที่ดิน จำนวน 430 ล้านบาทก่อน (ณ วันจดจำนอง) และให้เสนอขอสัตยาบันต่อคณะกรรมการธนาคารซึ่งไม่ใช่กระบวนการอนุมัติสินเชื่อตามปกติ

การกระทำของนายกฤษดา กวีญาณ อดีตประธานกรรมการบริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กับพวก ในคดีนี้ จึงทำให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้รับความเสียหาย และส่อเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายของเอกชนด้วย

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหา ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด