กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง “Asia Digital Expo 2018” ขนเทคโนโลยีสุดล้ำ-กูรูมืออาชีพ ร่วมไขรหัสธุรกิจสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล พร้อมทุ่มทุนติดปีก “สตาร์ท อัพ” 25-27 ม.ค.นี้

61

“depa” จัดงาน “Asia Digital Expo 2018” ขนเทคโนโลยีสุดล้ำ-กูรูมืออาชีพ ร่วมไขรหัสธุรกิจสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล พร้อมทุ่มทุนติดปีก “สตาร์ท อัพ” ทะยานไกลบนเวทีโลก ด้าน SMEs เฮ ใช้ซอฟต์แวร์ไทย รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 200% คาดเงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa แถลงข่าวการจัดงาน “Asia Digital Expo 2018: Digital Transformation” ภายใต้หัวข้อ “ผู้ประกอบการยุค 4.0 ปรับตัวเพื่อเติบโตสู่ยุคดิจิทัล” ซึ่งจะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 25 – 27 มกราคม 2561

สำหรับภายในงานมีการรวบรวมบริการธุรกิจดิจิทัล เทคโนโลยีชั้นนำและนวัตกรรมสุดล้ำมากมายมาจัดแสดง รวมทั้งการออกบูธของผู้ประกอบการซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ กว่า 250 บริษัทและ 20 องค์กรจากภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศถึง 10 ประเทศ นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากดิจิทัลกูรูมืออาชีพกว่า 100 รายในทุกสาขา ทั้งค้าปลีก โลจิสติกส์ การศึกษา ธุรกิจการแพทย์ครบวงจร สุขภาพ ท่องเที่ยว การเกษตร มาร่วมเสริมสร้างความรู้และแรงบันดาลใจในการพลิกโฉมธุรกิจและปรับเพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับ SMEs พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจยุคดิจิทัล รวมถึงการเปิดให้มีการจับคู่และเจรจาธุรกิจในอุตสาหกรรมดิจิทัลแห่งภูมิภาคเอเชีย เพื่อให้ผู้ประกอบการมาต่อยอดไอเดียเสนอต่อผู้ประกอบการจากต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฯลฯ โดยที่ depa มีกองทุนให้กับสตาร์ทอัพที่จะเดินทางไปเจรจาธุรกิจในต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการจัด job fest สำหรับคนที่ต้องการหางานหรือคนดิจิทัลด้วย

นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ความน่าสนใจอีกประการคือ การนำมาตรการทางภาษีมาเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์หรือว่าจ้างผลิตซอฟต์แวร์จากผู้ประกอบการไทยซึ่งได้การรับรองมาตรฐานตามที่ depa กำหนด อาทิ ISO/IEC 29110 หรือ Capability Maturity Model Integration (CMMI) ทั้งนี้สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า หรือ 200% สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ปัจจุบัน depa ได้เปิดให้ผู้ประกอบการโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ทั่วไปที่สนใจสามารถขอลงทะเบียน ผ่าน www.depa.or.th/tax200 ได้โดยตรง ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวนอกจากจะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการด้านซอฟต์แวร์ไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบการแข่งขันในระดับสากลด้วย โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คนเกิดการเจรจาธุรกิจถึง400-500รายสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท