พบเพิ่มอีก 2 ศพ เหยื่อด.ต.ปืนโหด คีรีรัฐนิคม เป็นลูกชาย ถูกยิงในรถของคนร้าย และภรรยา ลูกอดีตผู้ใหญ่บ้าน ถูกยิงที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ตำรวจยังไล่ล่าไม่พบตัว
ความกรณีคนร้ายคือ ด.ต.อรรถพร วิเชียร ตำรวจสภ.คีรีรัฐนิคม ก่อเหตุบุก นายธรรมรงค์ นิลนิยม เจ้าของบ้าน เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านที่อ.คีรีรัฐนิคมบ้าน ซึ่งเป็นพ่อตา พร้อมอาวุธสงครามครบมือ เป็นเหตุให้มีการยิงกันจนมีผู้เสียชีวิต 4 คน คือ นายธรรมรงค์ นิลนิยม เจ้าของบ้าน เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ ภรรยานายธรรมรงค์ นายพรศักดิ์ เพชรชู เพื่อนธรรมรงค์ ที่มาทำธุระ และอีกคน คือ นายวัฒน์ วิเชียร หนึ่งในกลุ่มผู้ที่เข้ามาก่อเหตุ พี่ชาย ด.ต.อรรถพร เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด
วันที่ 10 เม.ย.2566 ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ตำรวจภูธรคีรีรัฐนิคม พร้อมแพทย์ เข้าชันสูตรพลิกศพ น.ส.พนิดา นิลนิยม ภรรยา ด.ต.อรรถพร วิเชียร ซึ่งเสียชีวิตอยู่บนที่นอน ภายในห้องพัก ของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี
จากการชันสูตรพลิกศพพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณใต้ตาซ้าย จำนวน 1 นัด ศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็น คาดว่า น่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน และยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามบุคคลแวดล้อม ทราบว่า ด.ต.อรรถพร ได้มาเปิดห้องพักไว้ 3 คืน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา และวันที่ 8 เม.ย. มาเปิดห้องเพิ่มอีก 1 ห้อง จนมาเห็นในข่าวก็รู้ว่า เป็น ด.ต.อรรถพร จากนั้นตำรวจก็ได้แกะรอยตามมาจนพบรถ จึงได้ไปเปิดห้องให้ตำรวจเข้าตรวจสอบ และพบศพของน.ส.พนิดา นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง
หลังจากนั้น ในช่วงค่ำที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบรถยนต์เก๋ง ซึ่งจอดอยู่ภายในวัดไกรสรเขตาราม ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน ที่เป็นของ ด.ต.อรรถพร และพวก ใช้เป็นยานพาหนะเข้าไปก่อเหตุยิงนายธรรมรงค์ นิลนิยม ซึ่งเป็นพ่อตาของ ด.ต.อรรถพร จากการตรวจสอบ พบศพนายอรรถพล วิเชียร ซึ่งเป็นลูกชายของดาบตำรวจอรรถพร เสียชีวิตอยู่บริเวณที่นั่งด้านข้างคนขับ มีรอยกระสุน ที่ขมับด้านขวา
ปมการก่อเหตุทราบว่า ด.ต.อรรถพร ซึ่งเป็นพ่อหม้าย ได้มาคบหากับ น.ส.พนิดา บุตรสาวคนเดียวของนายธรรมรงค์ ที่เพิ่งเลิกรากับสามีเก่าเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่นายธรรมรงค์ เกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาจึงพยายามกีดกัน ทำให้ ด.ต.อรรถพร ไม่พอใจ พาพรรคพวกมาเจรจา แต่ไม่สามารถตกลงกัน จนเกิดเหตุยิงต่อสู้กัน
วันเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ติดตามคดีด้วยตัวเองเพราะคดีนี้นอกจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ มีผู้เสียชีวิตถึง 6 ศพ แล้ว ผู้ก่อเหตุยังเป็นตำรวจที่หลบหนีไปพร้อมอาวุธสงครามด้วย ซึ่งตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้
