ราคายางพาราขยับ อาจถึง80 บ.ไม่ใช่ฝีมือรบ.แต่มาจาก “ยางผลัดใบ-โรคใบร่วง”

30

รัฐบาล ทั้ง นายกฯ รมว.เกษตรฯ โฆษกประจำสำนักนายกฯ โฆษณาจังว่า ยางพาราราคาพุ่งถึง 80 บาท/กก.เป็นผลงานรัฐบาล อยากให้พูดไปตลอดทั้งปีนะ

ถ้ายางพารา ราคาตก อย่าบอกนะว่าเป็นกลไกการตลาด เป็นเรื่องของ demand/subply หรือ ตลาดโลก

นำเรียนว่าช่วงนี้ น้ำยางพาราออกสู่ตลาดน้อย ความต้องการยางพาราสูงขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการบิน ล้วนต้องการยางพารา

ส่วนสาเหตุน้ำยางพาราออกสู่ตลาดน้อย มาจาก

-ยางผลัดใบ ช่วงต้นปีจะเป็นช่วงยางผลัดใบ ชาวสวนไม่สามารถกรีดยางได้
-ตั้งแต่ปลายปี 66 มาจนถึง มกราคมปี 67 ภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกยางพารามีฝนตกต่อเนื่อง ยาวนาน ขาวสวนไม่สามารถออกไปกรีดยางได้
-โรคใบร่วงระบาดในสวนยางพารา โดยระบาดหนักใน 3-4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และลามมาอีกหลายจังหวัด
-โรคใบร่วง ยังระบาดไปอีกหลายจังหวัดที่มีการปลูกยางพารา การกรีดยางทำให้น้ำยางลดลง 30-40% และ ทำให้ต้นยางพาราอ่อนแอลง
-โรคใบร่วงในยางพารา มีมาตั้งแต่ปี 2562 โดยเริ่มระบาดที่อินโดนีเซีย มาถึงมาเลเซีย และเข้ามายังประเทศไทย
-รัฐบาลยังตื่นตัวน้อยกับการแก้ไขปัญหาโรคใบร่วงในยางพารา และยังอยู่ในระหว่างการศึกษาทดลองการแก้ปัญหาโรคใบร่วงด้วยซ้ำ

รัฐบาลอย่าเพิ่งตีปีกดีอกดีใจ โฆษณาว่า การที่ยางพาราราคาขยับตัวขึ้นไปสูงอาจจะถึง 80 บาท/กก.ว่าเป็นผลงานของรัฐบาล เพราะยังไม่เห็นวิธีการ ที่ชัดเจนของรัฐบาลในเชิงนโยบายต่อการแก้ไขปัญหาราคายางพารา มีแต่เห็นว่าเร่งปราบปรามการลักลอบนำเข้ายางพาราจากประเทศเพื่อนบ้าน (ยางพาราเถื่อน) ซึ่งยางพาราในประเทศเพื่อนบ้านเรา ยังราคาถูกมาก แค่ 20-30 บาท/กก.เท่านั้นเอง จึงมีการลักลอบนำเข้ามาขายในบ้านเรา

อยากให้รัฐบาลเอาจริงเอาจังมากกว่านี้ ในการปราบปรามการลักลอบนำเข้ายางพาราเถื่อน หรือ แม้กระทั่ง ยางพาราทรานซิส (ผ่านทาง) ไปยังมาเลเซีย ที่อาจจะตกหล่นขายอยู่ในตลาดบ้านเราก็เป็นไปได้

ถ้ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง กับ การปราบปราบ ทั้งยางพาราเถื่อน และ ยางพาราทรานซิส สาวให้ลึกถึงผู้อยู่เบื้องหลัง แล้วนายกฯเศรษฐา ทวีสิน อาจจะถึงกับร้อง “อัยหย่า ซี้เลี่ยวฮ่า” เพราะอาจจะเป็นคนที่อยู่ไม่ไกลตัวนายกฯก็เป็นได้ยังไม่เห็นรัฐบาลคิดออกมาเป็นนโยบาย ในการดำเนินการเกี่ยวกับยางพารา เช่น ที่เคยเป็นนโยบายก่อนหน้านี้ ให้ทุกกระทรวง ที่สร้างถนน ต้องวางงบประมาณให้มีส่วนผสมของยางพารา 10% แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นบ้าง แต่เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร หรือการแปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่น เช่น ที่นอน หมอน ร้องเท้า ตีนกบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำยางพาราไปทำแท่งแบริเอ่อร์ ที่ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพราะยางพารา มีความยืดหยุ่น ลดการสูญเสีย หรือ ราวสะพานตรงถนนโค้ง ก็ห่อหุ้มด้วยยางพารา จะลดการสูญเสียลงไปได้มาก

กระทรวงกลาโหม แทนที่จะใช้กระสอบทรายทำบังเกอร์ก็ใช้ยางพารา น่าจะได้ผลดี

ทั้งหมดนี้อยากจะฝากไปยังรัฐบาล ให้ศึกษาเรียนรู้ให้ดีก่อนออกมาตีกิน กลัวว่าสุดท้ายแล้ว จะหาทางลงไม่ได้เหมือน “ดิจิทัล วอลเล็ต” ตายคานโยบาย !

#นายหัวไทร #ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน #ราคายางพารา