แพทย์เผย“นุสน ขจรคำ” ก่อนจบชีวิต ถูกยิงที่คอก่อนถูกตีหน้าเละและรัดคอจนตายก่อนถูกนำศพที่ร่องน้ำ

3360

วันที่ 11 พ.ค.60 ที่ โรงพบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่ทับทิม ยะลา ได้นำศพนายนุสน ขจรคำ จากโรงพยาบาลปัตตานี หลังถูกคนร้ายจี้ชิงรถยนต์พร้อมนำนายนุสน ไปฆ่าสังหารโหด แล้วนำศพทิ้ง ที่บริเวณ กลางทุ่งนาคลองปะกะจินอ ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ในเวลาต่อมาภรรยาพร้อมครอบครัวเดินทางมาดูศพซึ่งบรรยากาศที่โรงพยาลยะลาเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ภรรยาร้องไห้อยู่ตลอดเวลา

ซึ่งขณะนี้แพทย์ต้องทำการชันสูตรศพก่อน เพื่อหา DNA หลายนิ้วมือคนร้าย แล้วจะอนุญาตให้มารับศพในวันพรุ่งนี้ เพื่อนำไปประกอบทางพิธีทางศาสนา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ยะลาและปัตตานีหลายร้อยนาย ร่วมกัน สืบค้นหาเบาะแสคดีสำคัญ ที่สะเทือนขวัญ และเป็นที่สนใจของสังคม โดยเริ่มแกะรอยตั้งแต่นายนุสน ออกจากบ้าน จนถึงจุดสำคัญที่ได้หายตัวไป และเป็นจุดที่บุคคลอ้างตัวเป็นลูกค้าให้มาติดตั้งกันสาด จึงมีการระดมกันค้นหาโดยการตรวจสองภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อม ซึ่งจุดนี้ ห่างจากจุดเกิดเหตุคาร์บอมม์เพียง 7 กิโลเมตร ต่อมาช่วงเย็นของวันนี้(11 พ.ค.)เจ้าหน้าได้พบร่างของนายนุสน หลังค้นหามา 2 วัน 3 คืน

เส้นทางที่นายนุสนเดินทาง ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าได้มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเข้ามา โดยอ้างว่าเป็นลูกค้า ให้ไปติดตั้งกันสาดที่มัสยิดแห่งหนึ่ง ในตำบลลิปะสะโง อ.หนองจิก จังหวัดปัตตานี ต่อมาเวลา 09.30 น.ได้เดินทางออกจากบ้าน ผ่านซอยจาเราะ ต. สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อไปติดตั้งกันสาดตามเบอร์ที่ติดต่อมา ผ่านจุดตรวจท่าสาป มุ่งหน้าเข้าถนนสายเชีย 418 ยะลา – ปัตตานี ต่อมาเวลา 11.30 น.ได้ขาดการติดต่อ ที่บริเวณ หมู่บ้านมะพร้าวต้นเดียว ต.สิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จุดนี้ห่างจากตัวบ้านนายนุสน ประมาณ 25 กิโลเมตร ในเวลาต่อ 14.00 น.เกิดเหตุคาร์บอม์มที่ห้างสรรพสินค้า Bigc ห่างจากจุดที่ได้หายตัวไป ประมาณ 7 กิโลเมตร จนสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล และมีผู้ได้รับบาทเจ็บโดยเฉพาะผู้บริสุทธิ์ และการก่อในครั้งนี้มีผู้ออกมาประนามกลุ่มผู้ก่อเหตุกันจำนวนมาก นับได้ว่าเป็นคดีใหญ่อีก 1 คดี และสร้างความเสียหายต่อภาครัฐเป็นอย่างมาก

แพทย์โรงพยาบาลยะลา ได้เปิดเผยว่า ได้เร่งทำการชันสูตรศพ ตรวจสอบร่องรอยบาดแผลที่ถูกทำร้าย ซึ่งสภาพศพพบบาดแผลหลายจุด ถูกอาวุธยิงทีคอ บริเวณใบหน้าถูกตีด้วยของแข็ง จมูกหัก รอบดวงตาและแก้มฉีกขาด มีรอยมัดเชือกที่บริเวณคอ เท้า และมัดมือไคว่หลัง จึงทำการตรวจสอบดีเอ็นเอผู้ตาย และรอยหลายนิ้วมือแอบแฝง ของผู้ที่ลงมือก่อเหตุ แล้วนำหลังฐานDNA ต่างๆ ส่งต่อไปยังกองพิสูตรหลักฐาน 10 เพื่อนำพยานหลักฐานตรวจสอบตามนิติวิทยาศาสตร์ หาตัวผู้ลงมือและผู้รวมก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

 

ภาพ/ข่าว อนูวา ลือแบซา ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.ยะลา