การโจมตีโรงพยาบาลและแพทย์ เป็นการวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปาเลสไตน์

.

BBC ได้สัมภาษณ์ พญ. Tanya Haj Hassan ชาวอเมริกัน ทำงานกับองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน #MSF เป็นกุมารแพทย์แผนกฉุกเฉิน บทสัมภาษณ์นี้เกิดขึ้น หลังจากที่กุมารแพทย์อีกท่านหนึ่งที่ทำงานร่วมกันในรพ.นัสเซอร์ใน #ฉนวนกาซา ต้องเสียลูกไปทีเดียว 9 คน จากจรวดของ #อิสราเอล จึงมีเนื้อหาดุเดือดมาก

.

พญ.ฮัสซันบอกว่า การโจมตีแบบที่เกิดขึ้นกับครอบครัวแพทย์ทั้งสองท่าน ที่เสียลูกไปเก้าคน ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของแบบแผนการโจมตีที่มีเป้าหมายเป็นพลเรือนและจนท.ด้านสุขภาพ ที่ผ่านมามีจนท.ด้านสุขภาพกว่า 1,400 คน ที่ถูกสังหาร ไม่นับรวมครอบครัวของพวกเขาที่ถูกฆ่าด้วย

คุณหมอบอกว่า เพื่อนร่วมงานในรพ.แต่ละคนที่ทำงานด้วยในปีที่แล้วกับปีนี้ ล้วนแต่สูญเสียญาติใกล้ชิดที่สุดไปหลายคน เมื่อปีที่แล้ว จนท.ด้านสุขภาพคนหนึ่งเสียครอบครัวไปเกือบหมดทุกคน มันเป็นการมุ่งโจมตีคนทำงานด้านสุขภาพอย่างเป็นแบบแผนและเป็นระบบ

.

คุณหมอตำหนิว่า BBC ซึ่งได้ถ่ายทำสารคดีเรื่อง Medics on Fire เสร็จแล้ว โดยเป็นเรื่องราวของผลกระทบของสงครามต่อจนท.ด้านสุขภาพ แต่ BBC กลับชะลอ ไม่ยอมนำสารคดีเรื่องนี้มาฉาย ทั้งที่สาธารณชนควรได้รับทราบว่า พลเรือนและครอบครัวของพวกเขา กำลังถูกสังหารอย่างจงใจและตั้งใจ “intentionally and deliberately”

.

ตรงจุดนี้ พิธีกรพูดแทรกว่า อยากให้ฟังที่กองทัพอิสราเอล หรือ #IDF อธิบายถึงข้อมูลการโจมตีย่านข่านยูนิสว่า #IDF ได้อพยพคนออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดขึ้นกับพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงคราม ในกรณีการสังหารเด็กที่เป็นลูกหมอเก้าคน

.

คุณหมอบอกว่า เราได้ฟังเหตุผลแบบนี้จาก IDF มานาน 19 เดือนแล้ว ครึ่งหนึ่งเป็นการพูดโกหก และต่อมามีการจับเท็จแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นคำกล่าวอ้างที่เกินความจริง เพราะโรงพยาบาล 35-36 แห่งในกาซาตกเป็นเป้าหมายโจมตีทั้งหมด รวมทั้งรพ.ที่คุณหมอและพญ.อาลาที่เสียลูกไปเก้าคนทำงาน

คุณหมอบอกว่า มีการส่งโดรนมาโจมตีตอนที่คุณหมอทำงานในรพ.นี้ด้วย โดรนได้ยิงระเบิดใส่ชั้นบนถัดขึ้นไปจากชั้นที่คุณหมอทำงานอยู่ เป็นเหตุให้คนไข้ตายไปสองคน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก หลังจากนั้นยังมีการโจมตีอีกสองครั้ง นับจากวันที่ 23 มี.ค.เป็นต้นมา

.

ในหน่วย ICU ที่คุณหมอทำงาน เต็มไปด้วยเด็กที่สูญเสียแขนขา เด็กกำพร้า เด็กที่เหลือเพียงลำพังเพราะญาติพี่น้องตายหมดแล้ว เด็กที่สูญเสียพี่น้องท้องเดียวกันไปหมด และเด็กที่พ่อแม่ไม่สามารถมาเยี่ยมได้ เพราะพ่อแม่เองก็บาดเจ็บ เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณหมอปีที่แล้วและปีนี้ด้วย

คุณหมอบอกว่า สื่อกลับเปิดพื้นที่ให้โฆษกอิสราเอลกล่าวคำอ้างที่เลื่อนลอยแบบนี้ ในขณะที่องค์กรสิทธิและมนุษยธรรมที่น่าเชื่อถือ ต่างออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในกาซาเป็น #การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เป็น #อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ พลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนได้ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีอย่างเป็นระบบ

.

คุณหมอจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมสื่อต้องให้พื้นที่กับคำกล่าวอ้างของ #IDF แบบนี้ แทนที่จะให้พื้นที่กับหน่วยงานที่น่าเชื่อถือมากกว่า สำหรับทางออก คุณหมอเชื่อว่าในสถานการณ์แบบนี้ ต้องมีการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาทำงาน เพื่อให้การคุ้มครองกับชาวกาซาอย่างแท้จริง จากนั้นจึงเป็นการฟื้นฟู และการหาผู้รับผิดต่ออาชญากรรมเหล่านี้

.

พิธีกร: ดิฉันยังคงต้องพูดว่า ทางการอิสราเอลยืนยันว่าไม่เคยทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา

หมอฮัสซัน: “คุณคงไม่ต้องไปถามคำถามกับผู้ก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มั้ง” “You don’t ask the perpetrator of genocide.”