ฮารีรายอพุมเรียง 68 คึกคัก ประธานกอจ.สุราษฎร์ฯ ชี้เป็นการรักษาวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของมุสลิม

งานฮารีรายอพุมเรียง 68 ชาวพุมเรียงและใกล้เคียงร่วมงานคึกคัก ประธานกอจ.สุราษฎร์ฯ ชี้เป็นการรักษาวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของสังคมมุสลิม

ระหว่างวันที่ 7-8 มิถุนายน 2568 มัสยิดนูรุลอิสลาม บ้านพุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี นำโดยนายอนุวัตร สุนทรารักษ์ อิหม่ามประจำมัสยิด ร่วมกับเทศบาลตำบลพุมเรียง ชุมชนมุสลิมพุมเรียง จัดงาน “ฮารีรายอ และดื่มน้ำชาการกุศล” เพื่อหารายได้ให้ศูนย์อบรมศาสนาและจริยธรรมประจำมัสยิดนูรุลอิสลาม สำหรับเยาวชน ได้เรียบนอัลกุรอ่าน และฟัรฎูอัยน์ ซึ่งหลักสูตรพื้นสำหรับมุสลิม ณ ถนนคนเดินเก่า ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ภายในงาน มีการจำหน่ายสินค้า-อาหารพื้นเมืองพุมเรียง และการแสดงของเยาวชน โดยในวันที่ 7 มิ.ย. ฮัจยี ดร. ธงชัย ปิติเศรษฐ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน วันที่ 8 นายพิชัย ชมภูพล ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดงาน บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก

ฮัจยี ดร. ธงชัย ปิติเศรษฐ กล่าวในระหว่างการเป็นประธานในพิธีเปิด ศูนย์จริยธรรมอิสลามมัสยิดนูรุลอิสลาม สอนพื้ฯยานอิสลามและอัลกุรอ่านให้เยาวชนพุมเรียงทั้งหมด ขอเน้นย้ำให้ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับการเรียนศาสนา ที่ถือว่า เป็นพื้นฐานติดตัวเยาวชนเรา ทั้งในโลกนี้และโลกอาคีเราะห์ เป็นสิ่งนำทางให้เยาวชนเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่มีดุอาใดประเสริฐกว่าดุอาที่ลูกซะและขอให้กับพ่อแม่ จึงขอให้เราตระหนักในเรื่องนี้ เพราะการเรียนสามัญในปัจจุบันในช่องทางมากมาย แต่การเรียนศาสนาเมื่อโตแล้ว ก็จะหาทางเรียนได้ยาก

‘ในอดีตรุ่นผม ไม่มีการเรียนฟัรดูอีน หลายคนจึงไม่ได้เรียน ผมเองก็ไปจบกุรอ่านที่กรุงเทพ แล้วมีโอกาสกลับมาดูแลบ้านเกิด มาทำงานศาสนา การเรียนศาสนาจึงสำคัญ หลายคนที่ไม่ได้เรียนก็ไปติดยาเสพติดบ้าง ออกนอกเส้นทางของคนปกติ เหมือนคนที่ตายไปแล้ว บุตร เยาวชนของเราจึงขอให้ห่างไกลยาเสพติด’ ประธานกอจ.สุราษฎร์ธานี กล่าว

ประธานกอจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสุราษฎร์ฯได้ร่วมมือกันทำงานตามที่ได้รับภาระมา สิ่งหนึ่งที่กำลังทำ คือ การให้มัสยิดเป็นผู้ให้ จากเดิมที่มัสยิดจะเป็นผู้รับ เราจะทำให้มัสยิดยืนได้ด้วยตัวเอง และเป็นผู้ให้ ตัวอย่างที่ทำสำเร็จ คือมัสยิดมูฮัมมาดียะห์ ท่าชนะ ที่มีนายณัฐวุฒิ สันหลี รองประธานกอจ.สุรษษฎร์ฯ เป็นอิหม่าม ได้จัดซื้อที่ดินสวนปาล์ม มีรายได้เดือนละ 50,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายของมัสยิด ซึ่งคณะกรรมการฯจะพยายามทำให้ครบทุกมัสยิด หากสำเร็จมัสยิดก๋็จะกลายเป็นศูนย์กลางชุมชนที่จะเป็นผู้ให้ชุมชน

‘วันอีดิ้ลอัฎฮา พวกเรามุสลิมกลับมาบ้านเกิด มาชออภัยกันและกัน มาร่วมทำบุญ ทำกุรบ่าน มีซียาเราะห์กุโบร์บรรพบุรุษ เป็นการรักษาสิ่งที่ดีงามเอาไว้ ซึ่งจะต้องรักษาต่อไป’ ประธานกอจ.สุราษฎร์ธานี กล่าว

สำหรับงาน “ฮารีรายอ และดื่มน้ำชาการกุศล”จัดระหว่างวันที่ 7-8 มิถุยายน คืนนี้(8 มิ.ย.) ยังมีงานอีกคืน ขอพี่น้องทุกท่านที่อยู่ใกล้เคียงไปร่วมงานร่วมทำบุญกัน