หยุดยิงมิใช่การหยุดวิกฤติ-ตามวจนะศาสดา อาหรับจะถึงกาลล่มสลาย

‘วิกฤติจากตะวันออก​ الفتنة الشرقية ว่าเกิดตามหลังวิกฤติในชาม​ (ซีเรีย)​ และเป็นวิกฤติที่จะนำสู่การล่มสลายของระบบการปกครองแบบเผด็จการอาหรับ​ วันนี้เราต่างได้เห็นชัดเจนแล้วว่าอิหร่านคือตัวแสดงที่สำคัญสูงสุดของวิกฤตินั้น’

หยุดยิงมิใช่การหยุดวิกฤต

แม้จะมีการหยุดยิงระหว่างรัฐไซออนิสต์กับอิหร่าน​ แต่การสู้รบที่ผ่านมาระหว่างสองฝ่ายก็เป็นสิ่งบ่งชี้สำคัญถึงฉากทัศน์ในอนาคตของภูมิภาคตะวันออกกลางที่กำลังดำเนินไปตามคำบอกของบรมศาสดามูฮัมมัด​ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม​ ผู้ซึ่งพูดออกมาจากเนื้อหาแห่งการวิวรณ์ของพระเจ้า​ มิใช่การวิเคราะห์ด้วยความรู้ของตนหรือการทำนายทายทักตามแนวทางของพวกโหราพยากรณ์แต่อย่างใด

การพูดถึงวิกฤติจากตะวันออก​ الفتنة الشرقية ว่าเกิดตามหลังวิกฤติในชาม​ (ซีเรีย)​ และเป็นวิกฤติที่จะนำสู่การล่มสลายของระบบการปกครองแบบเผด็จการอาหรับ​ วันนี้เราต่างได้เห็นชัดเจนแล้วว่าอิหร่านคือตัวแสดงที่สำคัญสูงสุดของวิกฤตินั้น

การสาดขีปนาวุธเข้าใส่รัฐไซออนิสต์ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่รัฐเถื่อนดังกล่าวชนิดที่ไม่เคยมีประเทศใดทำได้มาก่อน​ สะท้อนว่าอิหร่านมีศักยภาพสูงในการทำลายรัฐเถื่อนจอมอันธพาลนั้นได้​ ขณะเดียวกันความชิงชังต่ออาหรับจากก้นบึ้งของจิตใจเปอร์เซียบวกกับความมาดร้ายของชีอะฮต่อชาวซุนนะฮก็ยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะทำให้อิหร่านไม่ปล่อยให้โลกอาหรับลอยนวลแน่นอน​ ยิ่งฝ่ายอาหรับเอาฐานทัพอเมริกามาเป็นการ์ดปกป้องตัวเองด้วยแล้ว​ ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีในการโหมไฟแห่งการทำลายล้างจากอิหร่านให้ลุกไหม้รุนแรงมากขึ้น

การโจมตีฐานทัพสหรัฐในกาตาร์ถือเป็นออเดิร์ฟหนึ่งเท่านั้น

ส่วนฝ่ายอาหรับ​ ซึ่งในวจนะศาสดาบอกว่าจะถึงกาลวิบัติภายใต้วิกฤติจากตะวันออกนั้น​ هلاك الملوك وذل العرب ก็มีเหตุที่ทำให้พวกเขาสมควรได้รับชะตากรรมดังกล่าวอยู่หลายประการ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ การใช้ทรัพยากรและคุณูปการที่อัลลอฮทรงประทานให้อย่างฟุ่มเฟือย​ แข่งขันกันสร้างตึกสูง​ เกื้อหนุนระบบทุนนิยม​ ช่วยเหลือไซออนิสต์ทั้งแบบลับและเปิดเผย​ อนุญาตให้ศัตรูมาตั้งฐานกำลังในดินแดนของตน​ ฯลฯ

ที่เลวร้ายสุด​ ๆ​ คือ​ ปล่อยศัตรูทำลายบัยตุลมักดิสและมองการเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พี่น้องของตนเองในกาซาอย่างเย็นชาโดยอาวุธที่พวกเขาสะสมไว้ไม่เคยถูกปล่อยออกมาให้ระคายผิวไซออนิสต์แม้แต่น้อย

ตามวิถีแห่งอัลลอฮ​ سنة الله เมื่อคนกลุ่มใดไม่ทำหน้าที่ปกป้องสัจธรรมแห่งอัลลอฮ​ แต่เพลิดเพลินกับลาภยศสรรเสริญทางโลก​ พระองค์ก็จะทรงลงทัณฑ์คนเหล่านั้นและนำคนกลุ่มอื่นมาทำหน้าที่แทน

إلا تنفروا يعذبكم عذابا أليما ويستبدل قوما غيركم ولا تضروه شيئا… (التوبة : 39)
แม้นหากพวกเจ้าไม่ออกไปต่อสู้​ พระองค์จะทรงลงทัณฑ์ต่อพวกเจ้าแน่นอน​ และจะทรงทดแทนพวกเจ้าด้วยคนกลุ่มอื่น​ โดยพวกเจ้าไม่สามารถทำความเสียหายใด​ ๆ​ ต่อพระองค์ได้เลย…

พระดำรัสของพระองค์เป็นสัจจะเสมอ​ และวันนี้วิกฤติตะวันออกที่ถูกวางไว้เพื่อพิสูจน์สัจธรรมนี้ได้เริ่มนับหนึ่งแล้ว​ والله أعلى وأعلم

อิหม่าม ดร.วิสุทธิ์ บินลาเต๊ะ