ทบ.แฉ ต่อหน้าทูต 33 ประเทศ ทหารเขมร
ใช้ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล วางหน้าแนว-หลังถอนตัวทั้งในพื้นที่ ก่อนปะทะ -ขณะปะทะ
-หลังปะทะ รวมทั้งช่วงหยุดยิงหลักฐานชัด เขมรใช้ PMN 2วางใหม่ทหารไทย เหยียบไป5 นาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าว ระหว่างการบรรยายสรุปว่า ฝ่ายกัมพูชา ยังคงมีท่าทีบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการนำอาวุธทุ่นระเบิดมาใช้โจมตีฝ่ายไทย
โดยพยายามปฏิเสธหลักฐานที่มีอยู่อย่างเป็นระบบ ทั้งอ้างว่าหลักฐานที่ฝ่ายไทยนำเสนอเป็นการจัดฉาก หรือเป็นเพียงระเบิดตกค้าง จากสงครามในอดีต ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง
กองทัพบก จึงจำเป็นต้องยืนยันหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชา ได้ใช้ทุ่นระเบิดโจมตีฝ่ายไทยจริง
โดยมีประเด็นสำคัญว่า
1. รูปแบบการปฏิบัติทางยุทธวิธี – ทุกครั้งที่กัมพูชาวางกำลัง บริเวณด้านหน้าจะพบแนวทุ่นระเบิดเป็นแนวป้องกัน เช่น ช่องบก (16 ก.ค.2568) ช่องอานม้า (23 ก.ค.) ปราสาทตาควาย (28 ก.ค.) ฐานกฤษณา (9 ส.ค.) และปราสาทตาเมือนธม (12 ส.ค.)
โดยกำลังพลไทยที่ประสบเหตุ พบว่าในพื้นที่มักมีทุ่นระเบิด PMN-2 เพิ่มเติมอีก 3–5 ลูก ทั้งที่ระเบิดแล้วและยังไม่ระเบิด ซึ่งถูกวางอย่างเป็นระบบ
2. ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ – มีเพียงฝ่ายไทยและกัมพูชา แต่เหตุการณ์ทั้งหมด 5 ครั้ง มีเพียงฝ่ายไทยที่ได้รับผลกระทบ จึงไม่อาจเป็นไปได้ว่า ไทยจะทำร้ายกำลังพลของตนเอง
3. การตรวจพบเพิ่มเติมหลังหยุดยิง – การสถาปนาความมั่นคงโดยทหารช่างที่ภูมะเขือ (4 ส.ค.2558 ) พบการซุกซ่อนทุ่นระเบิด PMN-2 จำนวนมากในแนวกำลังเดิมของฝ่ายกัมพูชา
4. หลักฐานจากสื่อสังคมออนไลน์ – พบภาพอินฟลูเอนเซอร์กัมพูชา ที่ไปถ่ายทำคอนเทนต์ บริเวณปราสาทตาควาย โดยมีพวงทุ่นระเบิด PMN-2 ปรากฏอยู่ในภาพ
5. ข้อมูลจากแหล่งข่าว – มีคลิปพร้อมเสียงสนทนาของทหารกัมพูชาที่กำลังเก็บและเคลื่อนย้ายทุ่นระเบิด PMN-2 เพื่อไปวางในพื้นที่ใหม่
6. ท่าทีในเวที GBC – กัมพูชาไม่ยอมรับข้อเสนอของไทยในการร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด ทั้งที่กัมพูชามีภาพลักษณ์ในสายตานานาชาติว่า เป็นประเทศต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิด และได้รับทุนสนับสนุนจำนวนมากในแต่ละปี
7. การเก็บกู้ในพื้นที่เสี่ยงแล้วเสร็จ – TMAC เคยเก็บกู้ทุ่นระเบิดตกค้างที่ช่องบกและช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสร็จสิ้นเมื่อปี ค.ศ.2019 จำนวน 1,300 ลูก และไม่พบว่ามีทุ่นระเบิดชนิด PMN-2
8. การไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ – TMAC ระบุว่าฝ่ายกัมพูชามักไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในหลายพื้นที่ใกล้แนวเส้นเขตแดน ซึ่งเป็นข้อพิรุธที่สะท้อนถึง ความไม่โปร่งใสของฝ่ายกัมพูชา
พลตรี วินธัย ย้ำว่า หลักฐานที่ฝ่ายไทยนำเสนอทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้ และมีความจำเป็นต้องเผยแพร่ต่อประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อให้เห็นชัดเจนว่ากัมพูชาได้ใช้อาวุธทุ่นระเบิดโจมตีฝ่ายไทยจริง ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมและพันธกรณีระหว่างประเทศ