70 ปีเขตปกครองตนเอง’ซินเกียง’ สีจิ้นผิง ร่วมงานจัดใหญ่-จุฬาราชมนตรีอวยพรให้รุ่งเรืองตลอดไป

70 ปี เขตปกครองตนเองซินเกียง (Xinjiang Uyghur Autonomous Region) สี จิ้น ผิง ร่วมเฉลิมฉลอง จุฬาราชมนตรีไทย อวยพรชาวอุยกูร์ให้เจริญรุ่งเรือง

‘ในโอกาสที่มณฑลซินเกียง ครบรอบกว่า 60 ปีของการเป็นเขตปกครองตนเอง ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ของพรจากเอกองค์อัลเลาะฮ์ (ซ.บ.) ให้ชาวอุยกูร์ที่อาศัยอยู่ในมณฑลซินเจียง มีความสุข มีความเจริญ มีความก้าวหน้า
ขอให้ได้รับพร ใหมีความสุจ มีเศรษฐกิจที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความสงบสุข มีความเจริญก้าวหน้าตลอดไป’
เป็นการส่งความปรารถนาดี ของนายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ผู้นำศาสนาอิสลามของประเทศไทย ส่งไปยังพี่น้องอุยกูร์ ในมณฑลซินเกียง เป็ความปรารถนาดีในนามมุสลิในประเทศไทย ที่ต้องการเห็นพี่น้องอุยกูร์มีชีวิตที่ดีในทุกด้าน

เขตปกครองตนเองซินเกียงของสาธารณรัฐประชาชนจีนก่อตั้งขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1950 ถือเป็นหนึ่งในเขตปกครองตนเองของชาติน้อยหลายแห่งในจีน โดยมีประชากรหลากชาติพันธุ์แต่เด่นชัดคือชาวอุยกูร์ซึ่งเป็นชนชาติเติร์ก ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม
รัฐจีนจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองระดับชาติและระดับภูมิภาคสำหรับครบรอบ 70 ปี โดยมีการจัดพิธีรวมและการแสดง (gala) ในอูรุมชี (Urumqi) และมีผู้นำระดับสูงของจีนเข้าร่วมตามรายงานสื่อทางการ ซึ่งนำเสนอภาพงานที่มีการเน้นความเป็น “มั่นคง-ความเจริญ” ของภูมิภาค

การ เฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
จัดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568)
ที่เมือง อูหลู่มู่ฉี (Ürümqi) เมืองเอกของซินเจียง

โดยมี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และผู้นำระดับสูงของจีนเข้าร่วมงาน
🔹 งานมีการสวนสนาม วัฒนธรรมพื้นเมือง การแสดงของชนกลุ่มต่าง ๆ และการกล่าวสุนทรพจน์ย้ำถึง “เอกภาพของชนชาติและการพัฒนาอย่างมั่นคงของซินเจียง”

สื่อทางการของจีนรายงานว่า การเยือนซิเกียงของสี แสดงให้เห็นถึง “ความเอาใจใส่” ของรัฐบาลกลางต่อลูกหลานในซินเกียง แต่ฝ่ายวิจารณ์และองค์กรสิทธิมนุษยชนมองว่า การเน้นเรื่อง “ความมั่นคง” “ความเป็นหนึ่งเดียวทางชาติพันธุ์” และ “ควบคุมศาสนา” อาจสะท้อนการเสริมอำนาจรัฐและเข้มงวดในนโยบายควบคุมในภูมิภาค
สี จิ้น ผิง เดินทางไปยังอูรุมชี (Ürümqi) ในฐานนะเป็นประธานคณะผู้แทนกลาง (central delegation) ร่วมงานเฉลิมฉลองหลายกิจกรรม เช่น พิธีรวมใหญ่ (“grand gathering”) และกาล่า (gala) เพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งภูมิภาค 70 ปี

ในงานกาล่านั้น สีเข้าร่วมชมการแสดง “Beautiful Xinjiang” ซึ่งเป็นการแสดงที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วน: แสดงถึงความก้าวหน้าทางสังคม-เศรษฐกิจ, ผลจากการปฏิรูปและการเปิดกว้าง, และวิสัยทัศน์ของชนทุกชาติพันธุ์ในการร่วมสร้าง “ซินเกียงงดงาม” (Beautiful Xinjiang)
สี จิ้น ผิง เน้นย้ำเรื่อง การรักษาความมั่นคงทางสังคม (social stability) และความร่วมมือระหว่างชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในภูมิภาค เพื่อสร้าง “อัตลักษณ์ร่วมของชาติ” (sense of community for the Chinese nation)
เขาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ในภูมิภาคทำงานหนักในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เทคโนโลยี การสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าให้ “จีนโมเดิร์น” สามารถเข้าถึงภูมิภาคนี้ได้เต็มที่
ประธานาธิบดีจีน กำชับให้มี “การป้องกันแนวรบประชาชนต่อการก่อการร้าย” และจัดแนวปฏิบัติเพื่อให้ประชาชนจากทุกชาติพันธุ์มีมุมมองที่ถูกต้องต่อประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ ศาสนา และวัฒนธรรมในกรอบ “แนวคิดจีน” (China-centric narrative)
การเดินทางของสีจิ้นผิงทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีจีนคนแรกที่เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบในซินเกียงในลักษณะที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความสำคัญที่รัฐบาลกลางให้กับพื้นที่ชายแดนและการบริหารชาติพันธุ์ในภูมิภาค

การที่ผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาเยือนเองในโอกาสนี้ เป็นการประกาศเชิงนโยบายว่า การควบคุม การพัฒนา และ “ความเป็นจีนร่วม” (national integration) เป็นเรื่องสำคัญในยุทธศาสตร์ของจีนสำหรับซินเกียงการเยือนในจังหวะครบรอบ 70 ปีถือว่า “จังหวะยุทธศาสตร์” — ใช้โอกาสนี้แสดงภาพของการบรรลุผลสำเร็จภายใต้การนำของพรรค และตั้งท่าประชาสัมพันธ์นโยบายในภูมิภาคให้ผู้ชมทั้งในและนอกประเทศรับรู้
การมีส่วนร่วมของชาวอุยกูร์
สื่อทางการจีน รายงานว่ามี “ตัวแทนจากทุกชาติพันธุ์” และชาวท้องถิ่นเข้าร่วมการเฉลิมฉลอง เพื่อแสดงภาพความเป็นเอกภาพทางชาติพันธุ์และความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ-สังคมในภูมิภาค
แต่อีกด้านหนึ่ง กลุ่มสิทธิมนุษยชน นักกิจกรรมอุยกูร์ในต่างประเทศ และสื่ออิสระรายงานว่าชุมชนอุยกูร์จำนวนมากยังคงเผชิญกับมาตรการควบคุมที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบ การควบคุมการเคลื่อนไหว และข้อจำกัดในการแสดงความเชื่อหรือวัฒนธรรม ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการมีส่วนร่วมอย่างเสรีในกิจกรรมสาธารณะบางประเภท — ดังนั้น “การมีส่วนร่วม” อาจไม่ได้สะท้อนความสมัครใจหรือสภาพปกติของเสรีภาพทางวัฒนธรรมเสมอไป.

ชาวอุยกูร์ยังคงอนุรักษ์ประเพณีหลายอย่าง เช่น ดนตรีพื้นเมือง (muqam), การแต่งกาย (doppa — หมวกดั้งเดิม), อาหาร และงานเทศกาล (เช่น Nowruz, Doppa festivals) — โดยชุมชนทั้งในประเทศและในต่างประเทศยังจัดกิจกรรมวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง

ด้านศาสนา องค์กรสิทธิมนุษยชนและสื่ออิสระชี้ว่า ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 2010 เป็นต้นมา มีการออกมาตรการกำกับดูแลศาสนามุสลิมในซินเกียงอย่างเข้มงวด (เช่น กฎระเบียบเกี่ยวกับกิจกรรมทางศาสนา การควบคุมสถานประกอบการศาสนา การศึกษาในศาสนา และการจำกัดบางรูปแบบของการแสดงออกทางศาสนา) ซึ่งองค์กรอย่าง Human Rights Watch และสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานผลกระทบต่อเสรีภาพทางศาสนาของชาวอุยกูร์.
รายงานระหว่างประเทศหลายฉบับกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย เช่น การเปลี่ยนชื่อหมู่บ้าน/สถานที่ การย้ายแรงงานตามนโยบายส่งเสริมการพัฒนา และการบังคับอบรม/ค่ายฝึกที่เคยถูกรายงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริบทความขัดแย้งระหว่างนโยบายความมั่นคง/การพัฒนา กับคำเตือนเรื่องสิทธิมนุษยชนจากองค์กรต่างประเทศ. ฝ่ายรัฐบาลจีนชี้ว่านโยบายต่าง ๆ เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อความมั่นคง การต่อต้านการก่อการร้าย และการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค
งานฉลองครบรอบ 70 ปีถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่โดยรัฐ และสื่อทางการนำเสนอภาพของการมีส่วนร่วมจากทุกชาติพันธุ์รวมถึงชาวอุยกูร์ แต่ภาพจริงในระดับชุมชนมีความซับซ้อน: แม้มีการรักษาวัฒนธรรมบางส่วนและมีงานเทศกาลทั้งในท้องถิ่นและไกลโพ้นในชุมชนผู้ลี้ภัย/ต่างประเทศ แต่ก็มีรายงานข้อจำกัดและการควบคุมที่ส่งผลต่อเสรีภาพทางศาสนาและการแสดงออกทางวัฒนธรรมของชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์ในเวทีระหว่างประเทศ
“โครงสร้างการปกครองของเขตปกครองตนเองซินเกียง” และ “ผู้นำระดับสูงในภูมิภาค” รวมถึงลักษณะความสัมพันธ์กับรัฐบาลกลางของจีน
🏛️ โครงสร้างการปกครองของซินเกียง
1. สถานะทางการเมือง
  • ชื่อเต็ม: เขตปกครองตนเองซินเกียงอุยกูร์ (Xinjiang Uyghur Autonomous Region – 新疆维吾尔自治区)
  • ก่อตั้งอย่างเป็นทางการ: วันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1955
  • เมืองเอก: อูรุมชี (Ürümqi)
  • เป็นหนึ่งใน 5 เขตปกครองตนเองของจีน (ร่วมกับธิเบต มองโกเลียใน กว่างซี และหนิงเซี่ย)
  • แม้มีคำว่า “ปกครองตนเอง” แต่โครงสร้างอำนาจจริงอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดจาก พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) เช่นเดียวกับทุกมณฑลอื่น

โครงสร้างอำนาจหลัก 3 ส่วน

ระบบปกครองจีนในระดับมณฑล (รวมถึงเขตปกครองตนเอง) จะมี 3 เสาหลักซ้อนกัน:

ตำแหน่ง หน่วยงาน อำนาจจริง
เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเขตซินเกียง (Party Secretary) พรรคคอมมิวนิสต์จีน ✅ อำนาจสูงสุดในภูมิภาค
ประธานรัฐบาลเขตปกครองตนเอง (Chairman / Governor) รัฐบาลท้องถิ่น ทำหน้าที่บริหารฝ่ายปกครอง
ประธานสภาประชาชนเขตฯ ฝ่ายนิติบัญญัติ มีบทบาทสัญลักษณ์และตรวจสอบ

โดยทั่วไป ตำแหน่ง “เลขาธิการพรรค” มักเป็นชาวฮั่น (Han Chinese) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากปักกิ่ง
ส่วนตำแหน่ง “ประธานรัฐบาลเขต” มักมอบให้กับ ชาวอุยกูร์หรือชนกลุ่มน้อยอื่น เพื่อสะท้อนความหลากหลายเชิงสัญลักษณ์

⚙️ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำซินเกียง (Party Secretary of Xinjiang)

  • ปัจจุบัน (ข้อมูลล่าสุดปี 2025):
    หม่า ซิงรุ่ย (Ma Xingrui – 马兴瑞)

    • ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ธันวาคม 2021
    • เดิมเป็นผู้ว่าราชการมณฑลกวางตุ้ง และเป็นอดีตหัวหน้าวิศวกรของโครงการอวกาศจีน (CNSA)
    • ขึ้นมาหลังการโยกย้าย เฉิน ฉวนกั๋ว (Chen Quanguo) ซึ่งเป็นผู้นำช่วงที่มีการดำเนินนโยบาย “ควบคุมเข้ม” ต่อชาวอุยกูร์
    • หม่า ซิงรุ่ย ได้รับมอบหมายให้เน้น “การพัฒนาเศรษฐกิจ” และ “สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของซินเกียง” หลังจากถูกวิจารณ์ในเวทีสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

⚙️ ประธานรัฐบาลเขตปกครองตนเอง (Chairman of Xinjiang Government)

  • ปัจจุบัน:
    เออร์เค็น ตูนยาซ (Erkin Tuniyaz – 吾守尔·艾沙/尔肯·吐尼亚孜)

    • ชาวอุยกูร์ เกิดปี 1961
    • เข้ารับตำแหน่งเต็มตัวในปี 2021
    • เคยเป็นรองประธานรัฐบาลเขตมาก่อน และทำงานในระบบราชการมานานกว่า 30 ปี
    • มีบทบาทเป็น “หน้าตาเชิงชาติพันธุ์” ของการบริหาร โดยมักปรากฏในสื่อระหว่างประเทศเวลาจีนตอบโต้ข้อกล่าวหาเรื่องสิทธิมนุษยชน

🧩 ความสัมพันธ์กับรัฐบาลกลาง

  • ซินเกียงมี ทหารประจำการขนาดใหญ่ ได้แก่ “กองพลผลิตและก่อสร้างซินเกียง” (Xinjiang Production and Construction Corps – XPCC หรือ 兵团 / Bingtuan)
    • องค์กรนี้เป็นทั้งหน่วยเศรษฐกิจและกึ่งทหาร อยู่ภายใต้การควบคุมตรงของรัฐบาลกลาง
    • มีบทบาทสำคัญในการควบคุมพื้นที่และพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน
  • การตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ เช่น ความมั่นคง ศาสนา และการต่างประเทศ อยู่ในมือรัฐบาลกลางที่ปักกิ่งโดยตรง
    • โดยเฉพาะภายใต้นโยบาย “ต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน” และ “การพัฒนาเสถียรภาพในระยะยาว” ของพรรคคอมมิวนิสต์
    • ภาพรวมของการปกครอง
  • แม้ชื่อจะเป็น “เขตปกครองตนเอง” แต่ในทางปฏิบัติ การตัดสินใจส่วนใหญ่ยังมาจากพรรคคอมมิวนิสต์ส่วนกลาง
  • การแต่งตั้งผู้นำระดับสูง (เช่น Party Secretary) มาจากส่วนกลางเสมอ
  • นโยบายหลักในซินเกียง เช่น “การพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน” “โครงการ Belt and Road” และ “การรักษาความมั่นคงภายใน” ถูกกำหนดโดยรัฐบาลกลางและหน่วยงานความมั่นคงของจีน
  • โดยสรุปเขตปกครองตนเองซินเกียง
  • อำนาจสูงสุด: พรรคคอมมิวนิสต์จีน → เลขาธิการพรรคซินเกียง (ปัจจุบัน: หม่า ซิงรุ่ย)
  • ฝ่ายบริหาร: ประธานรัฐบาลเขต (ปัจจุบัน: เออร์เค็น ตูนยาซ – ชาวอุยกูร์)
  • ระบบจริง: “ปกครองตนเองในกรอบพรรคคอมมิวนิสต์” (Autonomy within Party control)
  • แนวโน้มปัจจุบัน: เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ใหม่ และควบคุมทางศาสนา/สังคมอย่างใกล้ชิด