Kazakhstan เข้าร่วมข้อตกลงอับราฮัม ถูกกล่าวหาทรยศมุสลิม กับความร่วมมือกับสหรัฐฯ-อิสราเอล

Kazakhstan เข้าร่วมข้อตกลงอับราฮัม แอคคอร์ด ถูกกล่าวหาทรยศมุสลิม กับความร่วมมือกับสหรัฐฯ-อิสราเอล

มีรายข่าวจากสื่อหลายสำนักข่าวนานาชาติ ทั้ง Reuters, Associated Press, Al Jazeera ว่า Kazakhstan จะ “เข้าร่วม” Abraham Accords ตามที่ Donald Trump ประกาศไว้

รายงานบอกว่าเป็นการ “เข้าร่วม” ในเชิงสัญลักษณ์ เพราะ Kazakhstan มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับ Israel อยู่แล้วตั้งแต่ปี 1992.

Kazakhstan เองออกแถลงการณ์ว่า เป็น “การดำเนินนโยบายต่างประเทศตามเหตุผล (natural and logical continuation)” สำหรับประเทศของตน

ข้อมูล จากAP News พบว่า ข้อสังเกตเกี่ยวกับการเข้าร่วมของ คาซัคสถาน ในข้อตกลง Abraham Accords กับ อิสราเอล

คาซัคสถานที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลอยู่แล้ว ตั้งแต่ปี 1992 กำลังจะเข้าร่วม Abraham Accords ซึ่งเป็นข้อตกลงสันติภาพ/การปรองดองที่ชาติมุสลิม-อาหรับหลายแห่งร่วมกับอิสราเอลอยู่แล้ว.

การเข้าร่วมนั้นถูกบรรยายว่าเป็น “สัญลักษณ์” (symbolic move) มากกว่าจะเป็นพิธีลงนามขนาดใหญ่ที่เปิดเผยรายละเอียดอย่างสมบูรณ์.

สำหรับข้อตกลงAbraham Accords มีรายละเอียด สรุปได้ดังนี้

ข้อตกลงอับราฮัม (Abraham Accords)” เป็นข้อตกลงทางการทูตที่จัดทำขึ้นในปี 2020 ภายใต้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ
โดยมีเป้าหมายหลักคือ

“สร้างสันติภาพและความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับหรือมุสลิม”

ชื่อ “Abraham” มาจาก ชื่อนบีอิบรอฮีมในอิสลม (อับราฮัม/ คริสต์-ยูดาย) ซึ่งเป็นศาสดาที่ทุกศาสนาในภูมิภาค (อิสลาม – คริสต์ – ยิว) ให้ความเคารพ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่ง “รากเหง้าร่วมกัน”

  • สาระสำคัญของข้อตกลง

ข้อตกลงนี้ ไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพทางทหารโดยตรง แต่เป็นกรอบทางการทูตที่ประเทศคู่ร่วมลงนามจะ:

  • สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับอิสราเอล
  • เปิดเส้นทางการค้า การลงทุน และการบินตรง
  • ร่วมมือด้านเทคโนโลยี ความมั่นคง และสาธารณสุข
  • ยอมรับสิทธิในการดำรงอยู่ของอิสราเอล (ซึ่งก่อนหน้านี้หลายประเทศในอาหรับไม่ยอมรับ)
  • มีการแลกเปลี่ยนทูตและตั้งสถานทูต
  • บางกรณี (เช่น UAE) ได้แลกเปลี่ยนข้อตกลงพิเศษกับสหรัฐฯ เช่น การซื้อเครื่องบินรบ F-35
  • ประเทศที่เข้าร่วมอย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบัน (พ.ย. 2025)
ปีที่เข้าร่วม ประเทศ หมายเหตุสำคัญ
2020 🇦🇪 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ประเทศแรกในรอบกว่า 25 ปีที่สร้างสัมพันธ์กับอิสราเอล
2020 🇧🇭 บาห์เรน ลงนามพร้อม UAE ในทำเนียบขาว
2020 🇸🇩 ซูดาน ประกาศตกลงปากเปล่าในปลายปี 2020 (สถานะยังไม่ลงนามสนธิสัญญาเต็มรูปแบบ)
2020 🇲🇦 โมร็อกโก ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในเรื่องการรับรองอธิปไตยเหนือเวสเทิร์นซาฮารา
2022 🇽🇴 โซมาเลีย (รายงานไม่เป็นทางการ) มีข่าวเจรจาแต่ไม่เคยลงนามจริง
2023 🇨🇴 โคโซโว (ประเทศมุสลิมในยุโรป) เป็นประเทศมุสลิมแรกในยุโรปที่สร้างสัมพันธ์กับอิสราเอล
2025 (รอการยืนยัน) 🇰🇿 คาซัคสถาน ประกาศโดยทรัมป์ว่ากำลัง “เข้าร่วม” แต่ยังไม่มีพิธีลงนามอย่างเป็นทางการ

ประเทศที่มีความสัมพันธ์กับอิสราเอลมานานแล้ว (แต่ไม่ได้อยู่ใน Abraham Accords)

  • 🇪🇬 อียิปต์ — ลงนามสันติภาพกับอิสราเอลตั้งแต่ปี 1979
  • 🇯🇴 จอร์แดน — ทำสัญญาสันติภาพในปี 1994
  • 🇹🇷 ตุรกี — มีความสัมพันธ์ทูตตั้งแต่ 1949 แม้จะมีความตึงเครียดบางช่วง
  • 🇦🇿 อาเซอร์ไบจาน — มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นทางยุทธศาสตร์กับอิสราเอล

เสียงคัดค้านและผลกระทบ

กลุ่มประเทศมุสลิมจำนวนมาก โดยเฉพาะอิหร่าน – ซีเรีย – เลบานอน – เยเมน – และองค์กรปาเลสไตน์ (PLO / Hamas) วิจารณ์ข้อตกลงนี้ว่าเป็น

“การทรยศต่อปาเลสไตน์ และทำให้โลกมุสลิมแตกแยก”

  • ฝ่ายสนับสนุน (เช่น UAE, สหรัฐฯ, อิสราเอล) มองว่าเป็น

    “การสร้างสะพานสู่สันติภาพและโอกาสทางเศรษฐกิจ”