“อำนวย นวลทอง” : ผู้ชายที่ “ไม่ยอมแพ้ ไม่กลัวอิทธิพล พร้อมชนทุกปัญหา
ถ้าพูดถึงคนการเมืองที่ “เดินมาจากดิน” จริง ๆ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ “อำนวย นวลทอง”
ผู้ชายที่เรียนรู้การเมืองตั้งแต่ยุคเรียนรามคำแหงกิจกรรมยังคึกคัก และใช้ประสบการณ์ตรงจากชีวิตนักศึกษา มาต่อยอดสู่สนามเลือกตั้งแบบไม่เคยถอย
การเป็นนักศึกษากิจกรรมแบบเข้มข้นของอำนวย ทั้งกิจกรรมค่ายอาสา (บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์)และกิจกรรมทางการเมืองได้บ่มเพาะอำนวยจนตกผลึกทางความคิด
ปี 2529 เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งแรกตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร เป็นก้าวแรกของอำนวยที่กระโดดเข้าสู่เวทีการเมือง หลังจบจากรั้วรามคำแหงด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเขต (สข.) เขตพญาไท
อำนวย ได้รับเลือกตั้งเป็นสข.ชุดแรกของกรุงเทพมหานคร คนที่ทำงานชุมชนจนเข้าใจประชาชนระดับพื้นที่จริง ๆ ไม่ใช่แค่บนเวทีปราศรัย แต่ในตรอก ซอก ซอย และโต๊ะกินข้าวของชาวบ้าน อำนวยได้เข้าไปสัมผัสในแบบการเมืองของคนรุ่นใหม่
เส้นทางของเขาไม่ได้โรยด้วยดอกไม้ กลีบกุหลาบ เขากลับไปปักหลักที่ อ.นาโยง จ.ตรัง เป้าหมายชัดคือทำงานการเมืองที่บ้านเกิด จังหวะปะเหมาะ อำนวย
ลงสมัคร สส.ตรัง เขต 3 ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ (พรรคลุงตู่)
แต่พ่ายให้กับ “ทายาทแห่งสกุลโล่” บ้านใหญ่เจ้าของพื้นที่ตรังมายาวนาน “สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ”
จริงๆแล้ว อำนวย กับสุณัฐชา ก็ถือเป็นลูกเป็นหลานกัน เพราะอำนวยกับสมชาย โล่สถาพรพิพิธ เป็นเพื่อนกันมายาวนาน เรียนรามคำแหงก็กินข้าวหม้อเดียวกัน พักบ้านเดียวกันในหมู่บ้านนักกีฬา แต่การเมืองก็คือการเมือง คือการแข่งขันกัน สู้ก็ต้องสู้กัน
“อำนวย”แพ้… แต่ไม่ถอย
ผิดหวัง… แต่ไม่เลิกสู้
และวันนี้ เมื่อประเทศกำลังเดินสู่ เลือกตั้ง 2569 “อนุทิน ชาญวีรกูล”นายกรัฐมนตรี เดินตามไทม์ไลน์ ยุบสภาตาม MOA หรืออาจจะก่อนกำหนดด้วยซ้ำ
อำนวยยังคงเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ “ประกาศชัด” ว่าจะสู้ต่อระหว่าง รวมไทยสร้างชาติ ที่เคยสังกัดหรือ ประชาธิปัตย์ พรรคเก่าแก่ที่มีรากฐานในตรังเหนียวแน่น
เขากำลังตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตการเมือง เป็นการตัดสินใจหลังสมชายเดินออกจากประชาธิปัตย์ ไปอยู่ภูมิใจไทย หลังพรรคเลือก “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” กับคำประกาศ “มีสาทิตย์ ไม่มีสมชาย”
แต่ไม่ว่าเขาจะเลือกพรรคใด คู่ต่อสู้ก็ยังเป็นรายเดิม สกุลโล่ บ้านใหญ่แห่งตรัง ตระกูลที่ยึดพื้นที่มายาวนาน และกำลังขยายอิทธิพลเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ
นี่คือเกมที่ยากที่สุด
แต่สำหรับคนชื่อ “อำนวย นวลทอง”บนเส้นทางการเมืองไม่เคยมีคำว่า “ยอมแพ้” อยู่ในพจนานุกรม
และการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจเป็นครั้งที่พิสูจน์ว่า
พลังบ้านใหญ่จะแน่นแค่ไหน หรือ พลังอำนวยจะชนะใจประชาชนได้แค่ไหน
น่าเสียดายที่สมชายลาเวทีไปแล้ว ถ่ายโอนภารกิจให้ลูก เวทีนี้ให้สนุก ต้อง “สมชายชนกับอำนวย” เพราะรู้ทิศรู้ทางกันอยู่
จับตาดูดี ๆ เกมนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น



