ครม.เพิ่มทุน 18,000 ล้านเดินหน้าไปแบงก์-นายกฯสั่งเด็ดขาดหาคนผิด ปล่อยหนี้เสีย 50,000 ล้าน

691

นายณฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมต. ประจำสำนักนายกฯ แถลงว่าที่ประชุมครม. เห็นชอบแผนการปรับโครงสร้างทางการเงินของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือ ไอแบงก์ เพื่อให้ดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด กับผู้ที่เป็นตัวการที่ทำให้ไอแบงก์เกิดหนี้เสียจำนวนมาก พร้อมกำชับว่า ในการดำเนินเรื่องของ ธนาคารอิสลามฯ ห้ามมีใครไปแอบอ้างว่าเป็นเพื่อนกับ นายกฯ อย่างเด็ดขาด

ล่าสุดเมื่อสิ้นปี 59 มีหนี้เสียที่ไม่ใช่ลูกค้ามุสลิมรวม 50,251 ล้านบาท (มุสลิม ประมาณ 3 พันกว่าล้าน)

ครม.ยังเห็นชอบ ให้แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายไอแบงก์ โดยให้กระทรวงการคลังเข้าไปถือหุ้นไอแบงก์ได้เกินกว่า 49% เพื่อเพิ่มทุนให้กับไอแบงก์ 18,100 ล้านบาท เพื่อให้ดำเนินกิจการต่อไปได้

หลังจากโอนหนี้เสียทั้งหมด ซึ่งไม่รวมหนี้เสียที่เป็นของชาวมุสลิมจำนวน 3,600 ล้านบาท ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นผู้บริหาร

ซึ่งทำให้เงินกองทุนไม่ติดลบ มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และพร้อมรองรับการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนต่อไป

เมื่อดำเนินการตามแผนปรับโครงสร้างทางการเงินแล้ว ในปี 60 นี้ ธอท.จะมีผลประกอบการเป็นกำไรสุทธิ 5 ล้านบาท จากที่ขาดทุน 3,416 ล้านบาทในปี 59 และมีสัดส่วนของทุนเป็นบวกที่ 1,136 ล้านบาท และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงหรือบีไอเอสที่ 1.47%

นายณัฐพร กล่าวว่า ไอแบงก์จะมีการปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิมอีก โดยวางเป้าหมายให้มีรายได้ในปี 60 ที่ 2,595 ล้านบาท มีสินเชื่อเติบโตที่ 30,000 ล้านบาท ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้หลากหลาย ขยายสินเชื่อให้มากขึ้นโดยเน้นที่ลูกค้ามุสลิม ลูกค้าสินเชื่อขนาดใหญ่ที่มีวงเงินกว่า 200 ล้านบาท รวมถึงภาครัฐและรัฐวิสาหกิจให้มากขึ้น ที่สำคัญกำหนดให้มีหนี้เสียไม่เกิน 6% ของสินเชื่อรวม