#ยุทธการทำลายอิหร่านโดยซาอุดิอาราเบียและสหรัฐ#
ตลอดระยะเวลา7 ปีของความโกลาหลในตะวันออกกลาง ได้สังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก บ้านเรือนประชาชน อารยธรรมที่เก่าแก่ของโลก รวมทั้งโบราณสถานที่สำคัญได้ถูกทำลายลงไปจากน้ำมือของไอซิส
รัฐบาลในหลายประเทศต่างล้มลงเหมือนโดมิโน่ การเมืองที่ถูกชักใยโดยมหาอำนาจ ท่ามกลางความวุ่นวายในศึกสมรภูมิที่ดูแล้วจะสงบยาก
อิหร่านกลับมั่นคงโดยที่เหล่าศัตรูไม่สามารถที่จะเจาะปฏิบัติการใดๆได้ หากมองดูโดยรอบภูมิรัฐศาสตร์ของตะวันออกกลาง สามารถกล่าวได้ว่า มหาอำนาจสายความรุนแรงนิยม คือซาอุดิอาราเบีย และกุนซือแห่งซาตานของโลกคือสหรัฐ ที่มีกองทัพของตนตั้งอยู่รอบอ่าวเปอร์เซีย ส่วนอีกฝ่ายใช้เม็ดเงินผลิตกลุ่มก่อการร้ายและส่งออกไปปฏิบัติการต่างๆ แต่ไม่สามารถส่งนักรบก่อการร้ายเข้าไปในอิหร่านได้ หรือบางครั้งเมื่อย่างกรายเข้าไปก็จะถูกจับกุมในที่สุด ซึ่งเป็นการแสดงความมั่นคงทางการข่าวของอิหร่าน และสิ่งนี้ยังคงเป็นหนามยอกอกต่อเหล่าศัตรูอิสลาม เพราะหลายประเทศในโลกเผชิญกับการก่อการร้ายที่ยากต่อการคาดคะแน แต่อิหร่านกลับสกัดกั้นแผนการชั่วร้ายได้เกือบทุกครั้ง
สภาวะการปกครองของผู้นำสูงสุดจึงเป็นประเด็นสนใจของผู้นำทั่วทั้งโลกว่า เหตุอันใดอิหร่านจึงปลอดภัยจากการโจมตี และเหตุผลหลักที่ซีเรียยืนหยัดต่อสู่กับกลุ่มก่อการร้ายได้ทุกวันนี้ ก็เพราะมีอิหร่านหนุนหลังอยู่
ท่ามกลางความล้มเหลวของหลายประเทศนั้น อิหร่านกลับมีความเจริญก้าวหน้าในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขยายความมั่นคงในระดับภูมิภาค การท่องเที่ยว และการลงทุนฯลฯ
การต่อสู้ในซีเรีย หมายถึงสงครามตัวแทน ระหว่างซาอุดิอาราเบียและอิหร่านในภูมิภาค เพื่อรักษาภูมิรัฐศาสตร์( geopolitics) หมายถึงการขยายอำนาจความมั่นคงในภูมิภาค เช่นใน อิรัค บะฮ์เรน และเยเมน การลุกขึ้นและการปฏิวัติของประชาชน ร่วมกับการช่วยเหลือของกลุ่มอันศอรุลลอฮ์ อัล-เฮาซี ในการโค่นล้มการปกครองของอับดุลลอฮ์ บิน ศอเลห์ หรือมันซูร ฮาดี ซึ่งทั้งสองได้รับการสนับสนุนจากซาอุดิอาราเบีย หมายถึงความพ่ายแพ้ของซาอุดิอาราเบียในภูมิภาค และเป็นความพ่ายแพ้ที่ใกล้บ้านตนเองที่สุด
การเปลี่ยนแปลงในเยเมนที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยมีกลุ่ม เฮาซี เป็นผู้นำ หมายถึงการปรากฏตัวของอิหร่านในเยเมน การครอบครองช่องแคบมันเดบ และเมืองท่าเอเดน ซึ่งมีชายแดนติดกับซาอุดิอาราเบีย จะทำให้ความมั่นคงของซาอุดิอาราเบียและชาติอาหรับบางชาติสั่นคลอน และด้วยเหตุผลนี้พันธมิตรจากชาติอาหรับจึงเข้าร่วมกินโต๊ะ ทำศึกสงครามกับเยเมน ด้วยกับการทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนพลเรือนและสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์
จนมาถึงกาตาร์ที่เป็นพันธมิตรกับซาอุดิอาราเบียมาอย่างช้านาน เมื่อเห็นสัจธรรมความจริงที่ปรากฏหลายอย่าง ทำให้กาตาร์ไม่กล้าถลำลึกไปมากกว่านี้ และแข็งข้อกับพี่เบิ้มซาอุดิอาราเบียในบางเรื่อง เช่นการขู่บังคับให้ตัดสัมพันธ์กับอิหร่าน จนทำให้กาตาร์ถูกรุมกินโต็ะจากหลายชาติอาหรับตามยุทธการตีกิน ซึ่งหมากนี้ถูกเขียนโดยทรัมป์ครั้นเมื่อเดินทางเยือนซาอุดิอาราเบีย
การกราดยิงรปภ.ของสำนักงานรัฐสภาอิหร่านซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน และบาดเจ็บอีก 43 คน และการระเบิดฮะรัม (สุสาน) อิมามโคมัยนี เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อหวังสร้างปฏิบัติการเชิงสัญลักษณ์ เพราะทั้งสองสถานที่หมายถึงหัวใจของรัฐอิสลาม ศัตรูมุ่งหวัง Propaganda เพื่อทำลายความเชื่อมั่นของกลุ่มอิหร่านนิยมในเวทีโลก อาทิ นักธุรกิจ นักลงทุน หรือนักท่องเที่ยว และมีผลทางอุดมการณ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจต่อกลุ่มก่อการร้ายที่สามารถโจมตีอิหร่านได้ในวันนี้ แถมยังเป็นการเอาใจสหรัฐหลังจากที่ทรัมป์มอบนโยบายเชิงรุกให้ซาอุดิอาราเบียในการขับเคลื่อน
หากมองดูในมุมมองของศาสนาอิสลาม เดือนรอมฏอนคือเดือนแห่งการถือศีลอด เดือนแห่งความเมตตาและความโปรดปราน แต่กลุ่มก่อการร้ายกลับเลือกเดือนอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อมุ่งหวังปลิดชีพผู้บริสุทธิ์ ที่สวนทางกลับวิถีศาสดา
หากมองดูในหลักคำสอนของศาสนาโดยที่พระองค์ทรงตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานว่า
مَنْ قَتَلَ نَفْسًا بِغَيْرِ نَفْسٍ أَوْ فَسَادٍ فِي الْأَرْضِ فَكَأَنَّمَا قَتَلَ النَّاسَ جَمِيعًا
“แท้จริงผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิใช่เป็นการชดเชยอีกชีวิตหนึ่ง(การลงโทษ) หรือมิใช่เนื่องจากกการบ่อนทำลายในแผ่นดินแล้ว ก็ประหนึ่งเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งมวล”(5:32)
การสังหารผู้บริสุทธิ์ที่เขามิได้มีความผิดใด ๆหมายถึงการฆ่ามนุษย์ทั้งมวล ศาสนาอิสลามได้กำชับถึงการรักษาชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และถือว่าคุณค่าของความเป็นมนุษย์ควรที่จะให้เกียรติ มาตรว่าเขาจะเป็นคนต่างศาสนิกก็ตาม เพราะอิสลามถือว่ามนุษยชาติล้วนคือพี่น้องต่อกัน บ้างก็พี่น้องร่วมศรัทธาดังโองการ
إِنَّمَا الْمُؤْمِنُونَ إِخْوَةٌ فَأَصْلِحُوا بَيْنَ أَخَوَيْكُمْ وَاتَّقُوا اللَّهَ لَعَلَّكُمْ تُرْحَمُونَ
“แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นพวกเจ้าจงไกล่เกลี่ย ประนีประนอมกันระหว่างพี่น้องทั้งสองฝ่ายของพวกเจ้า และจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด หวังว่าพวกเจ้าจะได้รับความเมตตา” (49: 10)
นอกจากการเป็นพี่น้องร่วมศรัทธาต่อกันแล้ว มนุษย์ที่ต่างศรัทธากับเราแต่เขายังเป็นเพื่อนมนุษย์ต่อเราเช่นกัน ดังคำกล่าวของท่านอิมามอาลี(อ) ในนะฮญุลบาลาเฆาะว่า
فانهم صنفان : اما اخ لك في الدين او نظير لك في الخلق
“มนุษยชาติ ไม่ก็พี่น้องร่วมศรัทธาของเจ้า ไม่ก็เพื่อนมนุษย์เหมือนกับเจ้า (เหมือนกันในชนิดของสิ่งถูกสร้าง)”
ดังนั้นการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายที่สร้างอาชญกรรมในทุกประเทศ ทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล้วนขัดกับหลักคำสอนของศาสนาทั้งสิ้น ไม่ว่าผู้ถูกกระทำจะเป็นใคร นับถือศาสนาอะไร แต่ก็น่าเสียใจที่ยังมีประเทศอิสลามกลับชมชอบการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ และยังส่งออกแนวคิดสุดโต่งไปยังประเทศต่างๆ จนกระแสไอซิสนิยมเติบโตขึ้นเป็นดอกเห็ดรวมทั้งประเทศไทยของเรา
สถานการณ์ในตะวันออกกลาง เป็นสถานการณ์ที่สำคัญ และเป็นดัชนีชี้วัดถึงความมั่นคงของโลกอิสลาม ฝ่ายหนึ่งแอบอ้างถึงการเป็นแกนนำของชาติมุสลิม แต่ในขณะที่ตน จับมือกับสหรัฐและอิสราเอล สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายให้เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เป็นมุสลิม สร้างอาชญากรรมที่เลวร้ายในนามอิสลาม เสมือนกับ ฆาตกรในคราบนักบุญ และตนเองก็เปิดศึกสงครามเข่นฆ่ามุสลิมด้วยกัน ในขณะที่อีกฝ่ายเชิญชวนสู่เอกภาพของประชาชาติอิสลาม และยกประเด็นปาเลสไตน์ เป็นประเด็นสำคัญ และเป็นวาระของโลกอิสลาม พร้อมประกาศถึงความเป็นศัตรูต่อไซออนิสต์ และอิสราเอลอย่างเปิดเผย
ขอประณามการก่อการร้ายในทุกประเทศทั้งประเทศมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกท่าน
ดร.ซัยยิด มุบาร็อก ฮูซัยนี
นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน
7/6/2560