บันทึกความเจ็บปวดสาวปัตตานี ลูก 3 คนท้องใกล้คลอด สามีถูกควบคุมตัวในค่ายทหาร ไร้ซึ่งสิทธิ์ทุกอย่าง

757

คุณ อัญชนา หีมมีหน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจ โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว
เสียงของเธอถึงค่ายอิงคยุทธบริหาร………ขอให้ได้ยิน
เธอกำลังท้องได้ 9 เดือน และมีลูกอีก 3 คน ที่ต้องดูแล วันหนึ่งในเดือนรอมฎอน เจ้าหน้าที่ได้มาล้อมที่บ้านและได้พาตัวสามีของเธอไปควบคุมตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหารจนกระทั่งวันนี้ก็ผ่านไปเกือบจะครบ 20 วันแล้ว ปีนี้เขาไม่ได้รายอที่บ้าน ลูกๆของเธอไม่ได้สลามพ่อในวันรายอ เธอขี่มอเตอร์ไซด์ไม่เป็น เธอต้องรอให้มีคนขี่มอเตอร์ไซด์จากบ้านที่เมาะมาวี ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อไปเยี่ยมสามี ที่ได้เยี่ยมแค่วันละ 1 นาที ไม่สามารถคุย กินข้าวด้วยกันได้ สามีเธอดูเครียด เป็นกังวล
เธอกำลังท้องได้ 10 เดือน กำหนดคลอดคือพรุ่งนี้(30 มิถุนายน 2560) ซึ่งเป็นลูกคนที่ 3 ลูกคนที่ 2 ของเธอไม่สบายเมื่อช่วงกลางเดือนจนทำให้มีอาการแขนขาอ่อนแรง และต้องใช้เครื่องทำออกซิเจนช่วยเติมตลอดวัน เธอต้องมีถังออกซิเจน 2 ถังไว้ในบ้านและต้องเติมออกซิเจนครั้งละ 250 บาท ทุกวัน ตอนนี้เธอทำงานไม่ได้เพราะใกล้คลอดและมีลูกคนที่ไม่สบายต้องดูแล สามีของเธอถูกควบคุมตัวเมื่อ 8-9 วันที่แล้วหลังจากไปหากำนันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์เมื่อเจ้าหน้าที่ไปหาที่บ้านแม่ของเขา และเขาก็ไม่ได้กลับบ้านเพราะถูกพาตัวมายังค่ายอิงคยุทธบริหาร เธอต้องขี่มอเตอร์ไซด์จากบ้านที่ยะหามาเยี่ยมสามีที่ค่ายอิงคยุทธบริหารเพื่อพบหน้าเขาแค่ 1 นาที ไม่สามารถคุยได้ถามอะไรสามีก็ไม่ตอบ มีเจ้าหน้าที่คุมตลอดเวลา เวลาที่สามีมาถึงเจ้าหน้าที่ต้องพยุงเขามาหาเธอ เธอเห็นรอยช้ำที่แขน มือของเขาบวม ไม่สามารถงอนิ้วได้ เธอบอกว่าเหมือนคนที่มือโดนน้ำแข็งมากๆ เธอเคยขายปลามาก่อน ตอนที่เจ้าหน้าที่พาสามีไปสามีมีสมุดผ่อนรถ โทรศัพท์ เงิน 1000 กว่าบาท เมื่อเธอสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร เขาบอกว่าจะให้พรุ่งนี้ พอวันรุ่งขึ้นเขาบอกว่าเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่จะพามาส่งให้เอง แต่วันนี้เธอก็ยังไม่ได้รับเลย เธอไม่สามารถผ่อนรถได้เพราะไม่มีสมุดผ่อนรถ
เธอทั้งสองกังวลกับการที่ไม่สามารถพูดคุยกับสามีได้โดยลำพัง ไม่สามารถคุยอะไรได้เลยเพราะเขาให้ได้แค่ยื่นของกินให้เท่านั้น เธอมองไปที่ป้ายระหว่างนั่งรอที่ป้ายเขียนว่า เวลาเยี่ยมครั้งละ 30 นาที แต่ทำไม ….. เธอขอแค่ให้ได้คุย ได้กินข้าวด้วยกันเพื่อให้พวกเธอได้สบายใจ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องคิดจินตนาการไปเองว่าเขาจะถูกทำร้าย โดนกระทำ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันเกิดมาจากความกังวลที่ไม่ได้พูดคุยต่อกัน
สำหรับเรา
ผู้ต้องขังในเรือนจำตามกฎหมายอาญา หรือผู้ต้องหา เขาจะได้รับสิทธิในการประกันตัว ได้พบทนาย ได้ ญาติได้เยี่ยม ได้พบหมอถ้าร้องขอ ถ้าเขาต้องอยู่ในเรือนจำ เขาจะได้เยี่ยมในเวลาราชการ ได้คุยผ่านโทรศัพท์ ได้เห็นหน้า 10 นาที
ผู้ต้องสงสัยตามกฎหมายพิเศษ เขาได้พบหน้าญาติแค่ 1 นาที ทุกวันไม่ได้พบทนาย ทั้งๆทีผู้ต้องสงสัยตามกฎหมายพิเศษถูกเชิญมาเพื่อพูดคุย ซักถาม แต่สิทธิกลับน้อยกว่าผู้ต้องขังมากมายนัก เรื่องนี้มาการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ทหารหลายครั้งแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นจิตวิทยาในการซักถาม เราไม่รู้ว่ามันได้ผลหรือเปล่าแต่เรารู้ว่าการกระทำแบบนี้มันทำลายความไว้วางใจระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างมากเลย
วันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ประเทศไทยจะไปรายงาน CEDAW ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ แล้วเรื่องของเธอเหล่านี้ละ จะได้รับการดูแลแก้ไขเมื่อไร อย่างไร

Cr. PATANISOCIETY