วงการศาสนาสุดเสื่อม! ทำเอกสารถึงทุกมัสยิดในกทม. ใส่ร้ายบุคคลสำคัญ ยกกรณีปทุมฯทำลายชื่อเสียงหวังทุบไม่ให้มีตำแหน่งในองค์กรกทม. 

1658

วงการศาสนาสุดเสื่อม! ทำเอกสารถึงทุกมัสยิดในกทม. ใส่ร้ายบุคคลสำคัญ หวังผลยกกรณีปทุมธานี ทำลายชื่อเสียงหวังทุบไม่ให้มีตำแหน่งในองค์กรกทม.

รายงานข่าวจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย แจ้งว่า ได้มีบุคคลไม่หวงดีได้จัดทำเอกสารกล่าวหาผู้ใหญ้คนหนึ่งในคณะกรรมการอิสลามกลางฯ เพื่อหวังสักดกั้นไม่ให้มีที่ยืนใน องค์กรศาสนาในกรุงเทพมหานคร ซึ่งยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง คณะกรรมการด้านศาสนาชุดใหม่ การโจมตีใส่ร้ายจะยิ่งร้อนแรงมากขึ้น

กรณีล่าสุด มีการอ้างชื่อมุสลิมปทุมธานี จัดทำเอกสารส่งไปยังจุฬาราชมนตรี และอิหม่ามทุกมัสยิดในกรุงเทพฯ เรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีปัญหาในองค์กรศาสนาของจังหวัดปทุมธานี เอกสารซึ่งมีจำนวน 2 หน้า แม้จะพูดถึงปัญหาในปทุมธานี แต่ได้เชื่อมโยงพุ่งไปที่เป้าหมายมุ่งทำลายชื่อเสียงของผู้ใหญ่คนหนึ่ง ในคณะกรรมการกลางฯ และมีบทบาทในการสร้างคุณูปการในแวดวงมุสลิม จนได้รับการยอมรับในระดับโลก อ้างว่า ที่ต้องฟ้องอิหม่ามในกรุงเทพฯ เพราะมีตำแหน่งในองค์กรในกทม.ด้วย เหมือนมีเจตนาที่ชัดเจนที่จะพุ่งเป้าใส่ร้ายผู้ใหญ่คนดังกล่าว ไม่ให้มีบทบาทในองค์กรในกรุงเทพมหานคร อ้างว่า คนกรุงเทพฯทำให้คนปทุมเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยปญหาในปทุมธานีไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่คนดังกล่าว และยังไม่มีการสรุปผลการตววจสอบว่า มีการความผิด แต่ในเอกสารดังกล่าว กลับะบุชัดว่า เป็นคนสร้างความเสียหาย

รายงานแจ้งว่า องค์กรศาสนาในกทม.ปัจจุบันมีความขัดแย้งกันสูง แตกเป็นการ 3 กลุ่ม จากการบริหารที่ไมเป็นธรรม นักการเมืองที่มีตำแหน่งในองค์กรศาสนา นำระบบความเลวร้ายในวงการเมืองมาใช้ในการบริหารองค์กร มีการบริหารเล่นพรรคเล่นพวก มีการปลดบุคคลที่ไม่ใช่พวกออกจากตำแหน่ง ทั้งในองค์กรระดับจังหวัด และองค์กรระดับมัสยิด สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายเป็นอย่างมากรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ยิ่งนักการเมืองไม่มีเวทีการเมืองเล่น ก็มาเอาจริงเอาจังในตำแหน่งในแวดวงศาสนา ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธามาอย่างต่อเนื่อง บุคคลากรในองค์กรจึงแตกออกมา เพราะทนไม่ได้กับระบบการบริหารที่เลวร้าย ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ยอมรับไม่ได้ คือ คนที่ถูกโจมตีในเอกสารดังกล่าว เพราะคนในองค์กร กลัวว่า จะไปตั้งทีมลงมาแข่งขัน และบุคคลดังกล่าว มีผลงานมาก เป็นที่ยอมรับ การจัดงานระดับสำคัญๆ จะเชิญบุคคลคนนี้เป็นประธาน จึงต้องการทำลายชื่อเสียง สักดไม่ให้เข้าสู่ตำแหน่งอีกครั้ง

กรณีที่เกิดขึ้น นับเป็นความเลวร้ายในบุคคลที่มีตำแหน่งในแวดวงศาสนา ใช้วิธีการที่เลวทราม โจใตีใส่ร้ายบุคคลอื่น เพื่อหวังผลในตำแหน่งของตัวเอง สร้างความเสื่อมถอยให้กับความศรัทธาในองค์กรศาสนา องค์กรศาสนาจึงไม่ควรมีบุคคลเช่นนี้ อยู่บริหาร