การคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร เริ่มดุเดือด 2 ทีมดัง ประกาศตัว ชิง “อ.อรุณ บุญชม” นั่งประธาน พร้อมดึงคนดังร่วมทีมเพียบ
การคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าจะเป็นวันที่ 27 พฤศจิกายน เริ่่มเข้มข้นโดยใดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครที่มี 2 ทีมดังลงชิงชัย คือ กลุ่มอะดาละห์ ที่มีสมัย เจริญช่าง เป็นผู้จัดการทีม และกลุ่ม ปฏิรูป Reform สังคมกรุงเทพ ที่มีดร.วินัย ดะห์ลัน เป็นตัวชูโรง มีนายมานิตย์ แสงทอง ภักดี มะแอ เป็นผู้จัดการทีม
ทั้ง 2 ทีม เคยอยู่ร่วมทีมเดียวกันมาก่อน ภายใต้การคุมทีมของ สมัย เจริญช่าง แต่ทนกับการบริหารแบบรวบอำนาจของคนบางคนไม่ไหว ไม่สามารถขับเคลื่อนสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมุสลิมได้อย่างเป็นรูปธรรม จึงออกไปตั้งกลุ่มใหม่
ทั้ง 2 กลุ่มได้ทาบทาม อ.อรุณ บุญชม ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน มาเป็นประธานคณะกรรมการอิสลามกรุงเทพฯ ในการคัดเลือกครั้งต่อไป แต่”ทีมสมัย” ได้ชิงประกาศตัวอ.อรุณ ออกมาก่อน พร้อมดึงคนดังหลายคนลงสมัคร โดยส่วนใหญ่เป็นอิหม่ามจากทีมเดิม ผนวกกับทีมนักการเมืองท้องถิ่น ที่ว่างเว้นจากวาระการดำรงตำแหน่งเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงเข้ามายึดตำแหน่งกรรมการอิสลามแทน และดึงอดีตเอกอัคราชทูตไทยประจำตุรกีที่เพิ่งเกษียณอายุ นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ มาดูแลด้านการต่างประเทศ นับเป็นตำแหน่งใหม่ของ กอจ.กรุงเทพฯ ที่มีตำแหน่งนี้ด้วย ปกติงานด้านการต่างประเทศ เป็นของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
ขณะที่ล่าสุด ปฏิรูป Reform สังคมกรุงเทพ ได้ประกาศตัวบุคคลที่จะลงสมัครออกมา ดึงคนดังร่วมทีจำนวนหลายคน รวมบุคคลที่มีชื่อเสียงมากกว่า ทีมอะดาละห์
ดูจากบุคคลากรของทีม เป็นการนำความสำเร็จของ ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกมุสลิม และทีมสมัย ได้ดำเนินรอยตามโดยไปขอตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลที่มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นคีย์แมน ตามด้วย ดร.อณัส อมาตยกุล อ.อาลี เสือสมิง นายสมพล รัตนาภิบาล อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และนำทีมที่เคยแข่งขันครั้งที่แล้วมาร่วทีม อาทิ อิหม่ามทินกร มีหิรัญ เป็นต้น
โดยนอกจากอ.อรุณ ที่ทั้ง 2 ทีมชูเป็นประธานกอ.กทม.แล้ว ยังมีอีก 3 คน ที่ทั้ง 2 ทีมส่งชื่อร่วมกัน คือ อ.ทองคำ มะหะหมัด อ.อับดุลเราะห์มาน เยนา และอดีต ส.ก.ประสิทธิ์ มะหะหมัด
นับเป็นการเปิดตัวที่สูสีระหว่าง 2 ทีม “สมัย-วินัย” ที่จะมาขบเคี่ยวกันเอง แบบแพ้กันไม่ได้ทีเดียว
