ไม่รอมอบตัว ตำรวจล่า’ไอ้ธน’ซ้อม’น้องเมย์’สุกัญญา บิลหมัดอาด จนตาย

1466

ตำรวจสตูลยังคงไล่ล่า ‘ไอ้ธน’สามีโหดที่ทำร้ายภรรยาคนเสียชีวิต ยังไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัว หลังกระแสข่าวเผยเตรียมเข้ามอบตัว 14 ม.ค.นี้ เผยผลชันสูตรการตาย น้องเมย์

จากกรณีเหตุสลด น.ส.สุกัญญา บิลหมัดอาด หรือ น้องเมย์ อายุ 30 ปี ถูกสามีคือ นายธนภัทร สงวนเขียว อายุ 28 ปี ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผลชันสูตรเบื้องต้นของแพทย์ รพ.สตูล ลงความเห็นว่า เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ หลังพบรอยช้ำที่คอ ขณะที่ สภ.เมืองสตูล ขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับนายธนภัทร โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ร.ต.อ.ชำนาญ เขียวรัตนา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า นายธนภัทร ได้มีการแชทคุยกับเพื่อนสนิทว่าขอเวลาทำใจก่อน และจะเดินทางเข้ามอบตัวในวันที่ 14 ม.ค.นี้ ว่า ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประสานเข้ามาทางตำรวจ

ร.ต.อ.ชำนาญ กล่าวต่อว่า ส่วนผลการพิสูจน์ศพจากโรงพยาบาลมอ.หาดใหญ่ จะส่งมาในวันที่ 14 ม.ค.นี้ เนื่องจากติดวันหยุด โดยเบื้องต้นแพทย์โรงพยาบาลสตูลยืนยันว่า เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ เนื้อตัวตามร่างกายบอบช้ำ โดยเฉพาะใบหน้า และปอดแตก

ผลชันสูตรศพ “น้องเมย์” เหยื่อผัวโหด ภายในบอบช้ำ ซี่โครงหักทั้ง 2 ข้าง ปอดและม้ามช้ำ ตับแตก คอมีรอยถูกบีบ

น.ส.สุกัญญา บิลหมัดอาด อายุ 28 ปี หรือน้องเมย์ ที่ถูกนายธนภัทร สงวนเขียว อายุ 28 ปี สามีลากตัวมาจากที่ทำงาน ซึ่งเป็นโชว์รูมแห่งหนึ่ง และทำร้ายเธออย่างหนัก จนต่อมาพบว่าเธอเสียชีวิต ศพถูกนำมาฝังตามหลักศาสนาอิสลามที่ต.บ้านควน อ.เมือง จ.สตูล หลังจากส่งศพไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่

ทางญาติยอมรับว่ายังเศร้าเสียใจ และอยากให้นายธนภัทร สงวนเขียว เข้ามอบตัวโดยเร็วเพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำลงไป ยืนยันว่าสาเหตุของการลงมือในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาว เนื่องจากว่าน้องเมย์ เป็นคนรักสามีมาก และถูกสามีทำร้ายร่างกายบ่อยครั้งตลอดเวลา4-5 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังทนอยู่

สิ่งที่ทางครอบครัวจะทำต่อไปหลังทำศพเรียบร้อยแล้ว คือพูดคุยเกี่ยวกับการดูแลหลานวัย 3 ขวบ ที่มีการเรียกหาแม่ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงการนำศพไปฝัง เด็กน้อยถามว่า มะ (แม่) ลงไปในหลุมทำไม ทำไมต้องฝังมะ มะเป็นอะไร มะอยู่ในนั้นเหรอ ไหนมะๆ สอบถามอยู่เรื่อยๆ ทำให้หลายคนที่อยู่บริเวณนั้นเศร้าเสียใจ บางคนถึงขนาดกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ทั้งนี้ ทางญาติมีความกังวลว่าลูกจะซึมซับพฤติกรรมความรุนแรงของพ่อที่กระทำต่อแม่ กลายเป็นพฤติกรรมลอกเลียนแบบได้