มุสลิมเดือด! โพสต์’รูปจุฬาฯ’กับข้อมูลบิดเบือนแผน 49 ขั้นมุสลิมยึดไทย

1710

มุสลิมไทยแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังมีการโพสต์ภาพนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พร้อมข้อความบิดเบือนแผน 49 ข้อ ในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประเทศมุสลิม

สถานการณ์การต่อต้านมุสลิมแพร่กระจายผ่านทางโลกโซเชียลมากขึ้น นับตั้งแต่การเปิดมัสยิดมุกดาหาร กลุ่มขบวนการต่อต้านมุสลิมที่ต้องการสร้างความแตกแยก ปั่นป่วนวุ่นวายในประเทศ ยังคงปฏิบัติการต่อเนืองทั้งใต้ดินและบนดิน โดยเฉพาะในโลกโซเชียลข้อความเดิมๆโจมตีอิสลาม ถูกโพสต์และส่งต่ออย่างต่อเนื่องซ้ำไปซ้ำมา เมื่อมีการชี้แจงเรื่องหนึ่ง ก็จะนำอีกเรื่องมาโจมตี โดยเฉพาะประเด็นการก่อสร้างมัสยิด การยึดประเทศไทยโดยพยายามโยงมุสลิมกับเข้ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างความเกลียดชังมุสลิมเพื่อให้เกิดความเกลียดชังรัฐบาล ล่าสุด ได้มีการนำข้อมูลบิดเบือนประเด็นแผน 49 ข้อเปลี่ยนประเทศไทยเป็นประเทศมุสลิม โดยมีรูปจุฬาราชมนตรีอยู่ด้วย

โพสต์ดังกล่าว โพสต์โดยคนที่ใช้ว่า ลุงผล ธรรมวิเศษ ตั้งแต่เดือนกุมภ-าพันธ์ แต่ยังไม่มีการลบข้อมูลออก ยังมีการแชร์ การส่งต่ออย่างต่อเนื่องในห้องต่างๆทั้งในกลุ่มไลน์และกลุ่มเฟซบุ๊ค มีคนแชร์ไปแล้วมากกว่า 1พันครั้ง จากการตรวจสอบแอคเคาท์พบว่า เป็นแอคเทาท์อวตารที่เฉพาะนานๆจะโพสต์ข้อมูลซักครั้ง และแผน 9 ข้อที่อ้างอิงว่ามาจากเวบไซด์เมื่อเปิดดูก็ไม่สามารถเปิดได้

รายละเอียดใน 49 ข้อทำให้ดูเหมือนเขียนโดยมุสลิม เชื่อมโยงเหตุการณ์หลายเหตุการณ์โดยไม่น่าเชื่อถือ และเป็นข้อมูลเก่า เพราะยังมีการพูดถึงดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียนผู้ล่วงลับ เช่นให้ย้ายตำรวจพุทธเพื่อนำตำรวจมุสลิมลงไป จ้างอาจารย์มหาวิทยาลัยให้บิดเบือนประวัติศาสตร์ การกว้านซื้อที่ดินชาวพุทธ การจ่ายเงินให้สร้างมัสยิด เป็นต้น หลายเรื่องดูแล้ว เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิด เกิดความเกลียดชังมุสลิม ซึ่งจะนำไปสู่การต่อต้านมุสลิม แต่ไม่มีการดำเนินการกับคนกลุ่มนี้อย่างเป็นรูปธรรม แม้ข้อมูลทั้งหมดจะเป็นเฟคนิวส์ที่กระทบต่อความมั่นคงก็ตาม

กลุ่มต่อต้านอิสลามเป็นกลุ่มที่จัดตั้งโดยวสัดดังวัดหนึ่งที่มีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชน และถูกทางการเข้าดำเนินการจับกุม และอดีตเจ้าอาวาสได้หลบหนีไปได้ สร้างความโกรธแค้นให้กับคนกลุ่มนี้อย่างยิ่ง จึงจัดตั้งขบวนการขึ้นมาเพื่อโจมตีต่อต้านรัฐบาล และการโจมตีมุสลิมก็เป็นแผนหนึ่งที่ต้องการให้เกิดความเกลียดชังมุสลิมและโยงมุสลิมกับเข้ากับรัฐบาล จะเห็นได้ในหลายกรณี อาทิ การกล่าวหานายกรัฐมนตร้เป็นมุสลิม การกำหนดนโยบายเอาใจมุสลิม การให้เงินสร้างมุสยิด แต่ไม่ดูแลชาวพุทธ เพื่อต้องการเปลี่ยนประเทศเป็นรัฐอิสลาม โดยสร้างความน่ากลัวของอิสลาม ให้สังคงเกิดการตื่นกลัวต่อต้านมุสลิมและนำไปสู่การต่อต้านรัฐบาล

กลุ่มนี้จะมุ่งเน้นการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนไปยังพี่น้องอีสาน เนื่องจากชาวอีสานรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับมุสลิมน้อย กลุ่มนี้คาดหวังว่า การนำข้อมูลผิดๆไปเผยแพร่จะทำให้คนอีสานเชื่อและเกิดการต่อต้านมุสลิม ประกอบกับภาคอีสานสนับสนุนการเมืองฝั่งตรงกันข้ามรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จึงคิดว่าง่ายต่อการปลุกระดม เหมือนกรณีที่คนเสื้อแดงใช้คนอีสานเป็นฐานในการต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มาแล้ว แต่คนอีสานส่วนใหญ่รับรู้และเข้าใจข้อเท็จจริงไม่ตกเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มนี้ จะเห็นได้จากการต่อต้านมัสยิดมุกดาหารคนในพื้นที่ไม่มีปัญหา ต้องนำคนจากนอกพื้นที่ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัดดังมาชุมนุมยื่นหนังสือ

ข้อมูลจากหน่วยความมั่นคงระบุว่า ม.ล.ที่ออกหน้าเคลื่อนไหว แบบกักขฬะจนไม่มีคราบของราชนิกูลอยู่เลย กำลังอยูในภาวะถังแตก ต้องการเงินจากการเคลื่อนไหวเพื่อพยุงฐานะของตัวเอง ส่วนอีกคนที่มาจากภาคใต้ ก็เป็นคนที่ไม่มีงานการทำเป็นหลักแหล่งต้องการเงินและสร้างชื่อให้กับตัวเอง ซึงมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายกรณีแล้ว