นายกฯ มาเลเซีย หน้าแหก พระราชาธิบดีอัลสุลต่าน ปฏิเสธ ประกาศภาวะฉุกเฉิน

สมเด็จพระราชาธิบดีอัลสุลต่าน อับดุลเลาะห์ แห่งมาเลเซีย ทรงปฏิเสธ ที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินตามคำกราบบังคมทูลของนายกฯ มูห์ยิดดิน ยัสซิน ที่อ้างเหตุผลเพื่อต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนา แต่โดนจับได้ว่าเพื่อป้องกันการโค่นอำนาจ

วันที่ 25 ก.ค.63 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า นายมูห์ ยิดดิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ขอเข้าเฝ้าเข้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีอัลสุลต่าน อับดุลเลาะห์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อกราบบังคมทูลขอให้มีพระบรมราชโองการประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยอ้างว่าการประกาศภาวะฉุกเฉิน จะทำให้เกิดเสถียรภาพในการต่อสู้กับการระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่มีเสียงวิจารณ์ว่า คำประกาศภาวะฉุกเฉินซึ่งจะรวมถึง การสั่งปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นการชั่วคราว นั้นเป็นความพยายามสกัดการท้าทายของผู้นำฝ่ายค้านที่ต้องการโค่นอำนาจเขา

รายงานแถลงการณ์ จากสำนักพระราชวังมาเลเซียภายหลังสมเด็จพระราชาธิบดี ทรงหารือ กับ สุลต่านทุกรัฐแล้ว พระองค์มีพระบรมราชวินิจฉัยว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ หรือในพื้นที่ใดของมาเลเซีย ขณะเดียวกันพระองค์มีพระราชดำรัสชื่นชมรัฐบาล ในการทำหน้าที่รับมือการระบาดของโรคโควิด-19 และทรงเรียกร้องให้ ส.ส.ทุกคนหยุดเล่นการเมืองที่จะทำให้ประเทศขาดเสถียรภาพ

ภายใต้รัฐธรรมนูญของมาเลเซีย กษัตริย์มีพระราชอำนาจที่จะทรงประกาศภาวะฉุกเฉิน ถ้าพระองค์ทรงเห็นว่ามีภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อความมั่นคงของประเทศ ถ้ามีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยในมาเลเซีย จะทำให้ต้องระงับการทำหน้าที่ของรัฐสภาชั่วคราว และมูห์ยิดดินจะผ่านกฎหมายได้โดยไม่ต้องผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา

ด้านอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านที่กำลังระดมเสียงสนับสนุนเพื่อตั้งรัฐบาล กล่าวหา มูห์ยิดดินว่า ใช้วิธีการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเพื่ออยู่ในอำนาจต่อไป พร้อมเตือนว่ามาเลเซียอาจถลำสู่การปกครองโดยผู้นำเผด็จการและระบอบเผด็จการอำนาจนิยม ทั้งนี้ มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว 26,565 รายถึงวันอาทิตย์ โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 823 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 8 ราย รวมเป็น 229 ราย