“สุพัฒนพงษ์” แจงเยียวยา 3,500 บ. 2 เดือน รอ กระทรวงคลังสรุปกลุ่มไหน จะได้บ้าง แต่ยืนยันทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบพิษโควิด-19 ได้่แน่ แต่ไม่ชัดเจน รัฐบาลจะเดินหน้าต่อ คนละครึ่งเฟส 3 และ 4
วันที่15 ม.ค.63 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและทีมเศรษฐกิจ ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ว่า เรื่องเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 จำนวน 3,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือน จะเข้าที่ประชุมครม. ในสัปดาห์หน้าซึ่งเป็นหน้าที่ของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังซึ่งวานนี้ (14ม.ค.64) ได้มีการหารือกันว่าจะให้กลุ่มพื้นที่ใดบ้าง ต้องรอการสรุปอีกครั้งและจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้าเช่นกัน และยังไม่ทราบกรณีที่มีนักวิชาการบางส่วนออกมาระบุว่าเงินเยียวยา 2 เดือนน้อยไปเนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานานกว่าเดิม แต่ให้ดูรายงานความคืบหน้าการแพร่ระบาดทั้งหมดขึ้นอยู่กับคนไทยช่วยกัน ถ้าไม่ช่วยกันอย่างไรก็ระบาดนาน ทุกคนต้องตระหนักรู้ถึงมาตรการต่างๆด้านสาธารณสุข ถ้าหากไม่ทำตาม เยียวยาอย่างไรก็ไม่มีวันสิ้นสุด
ทั้งนี้ นายสุพัฒนพงษ์ แจงเหตุผลการเยียวยาเป็นระยะเวลา 2 เดือน ว่า เนื่องจากมีการรายงานของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 หรือ ศบค. ว่า มีแนวโน้มและสามารถควบคุมได้ดีขึ้น รวมทั้งมีบุคลากรทางการแพทย์ของไทยที่มีศักยภาพ ย้ำขอให้ทุกคนช่วยกันให้ปฎิบัติตามอย่างเข้มงวด และจะผ่านวันนี้ไปได้ รัฐบาลยังคงเดินหน้าปฎิบัติเชิงรุกและรักษาผู้ป่วยให้หายโดยเร็ว
นายสุพัฒนพงษ์ เผยถึงการวางแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังวัคซีนโควิด-19 เข้าไทยในปีนี้ว่า ปี 2564 เป็นการเตรียมตัวปฎิบัติการเชิงรุกเพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติในการเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศ ซึ่งขณะนี้ไทยยังอยู่กับอุตสาหกรรมเดิมๆ และเชื่อว่าไทยมีศักยภาพเพียงพอ แต่ต้องปรับเรื่องกฎระเบียบขอเพียงคนไทยช่วยกันรักษาวินัยต่าง ๆ โดยหากผ่าน 2 เดือนนี้ไปได้จะเป็นการพิสูจน์ว่า ไทยมีความสามารถในการแก้ปัญหาที่ดีกว่าเดิมเนื่องจากมีประสบการณ์และการเรียนรู้จากการแพร่ระบาดในครั้งก่อน ส่วนจะมีความพร้อมในการรับมือการแพร่ระบาดในระลอกต่อไปหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า ไม่คิดว่าจะมีการแพร่ระบาดอีก เช่นเดียวกับการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ จะมีการเสนอให้มีโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 และ 4 หรือไม่
นายสุพัฒนพงษ์ มองว่าการแก้ปัญหาแบบนี้มีความไม่แน่นอนสูง การออกมาตรการต่างๆต้องศึกษาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องที่ไม่ใช่ในมุมมองเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูด้านอื่นประกอบกัน พร้อมถามกลับว่าทำไมไม่แข่งกับตัวเอง วันนี้รัฐบาลแข่งแล้ว ใครควรอยู่ที่ไหนและทำหน้าที่อะไร ส่วนด้านธุรกิจด้านการท่องเที่ยวได้มีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เดือนธ.ค.63 ที่ผ่านมาทั้งโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน รวมไปถึงสินเชื่อสภาพคล่องต่างๆ กว่า 1 แสน 5 หมื่นล้านบาท พร้อมมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะให้หว่านแห ทุกอย่างอยู่ในกติกาเพราะเงินธนาคาร คือ เงินของประชาชน พร้อมยอมรับว่าเมื่อมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นจริง ก็ใช้มาตราการเหล่านี้ และเชื่อว่าหากเดินตามแผนอีก 1-2 เดือนจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน
