เปิดประวัติ “แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต” หลังหวลคืนสู่ธรรมชาติ

469

การหวลคืนสู่ธรรมชาติ ของ “แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต” ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน หลังจากป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะลุกลาม เชื่อว่าทั้งลูกศิษย์ลูกหาและคนทั่วไปต่างรู้สึกเสียใจถ้วนหน้ากัน เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าท่านเป็นหนึ่งในบุคคล ผู้ซึ่งมีอิทธิพลในพุทธศาสนาบ้านเราเป็นอย่างมาก

สำหรับ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต นามสกุลเดิม คือ “ปัญญศิริ” เป็นคนชาวบางปะหันจังหวัดอยุธยา โดยกำเนิดมีชื่อเล่น “ตุ๊กตา” เป็นลูกสาวคนเล็กของพี่น้องจำนวน 2 คน เติบโตมาท่ามกลางญาติพี่น้องหญิงล้วน 5 คน

เมื่ออายุได้ 15 ปี ชีวิตได้เปลี่ยนไป เมื่อสูญเสียมารดา ทำให้เธอตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเรียนต่อระดับปริญญาตรี และได้เข้าสู่วงการนางแบบ และได้เป็น “รองมิสออด๊าซ” ควบรางวัลนางงามบุคลิกภาพ เธอโลดแล่นเป็นดาวเด่นของสังคม

พออายุ 27 ปี แม่ชีศันสนีย์รู้สึกว่า ชีวิตนี้ไม่สุขสงบ ไม่สบาย เหมือนตอนเด็กๆ จึงตัดสินใจหันหน้าเข้าพึ่งพาพระพุทธศาสนา ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตร เมื่อได้เดินบนเส้นทางธรรม แม่ชีศันสนีย์ถือเป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทในการเผยแพร่ธรรมะ ให้เป็นที่พึ่งทางใจแก่ผู้คนมากมาย

ผลงานอันโดดเด่นของแม่ชีศันสนีย์ คงหนีไม่พ้นการสร้าง “เสถียรธรรมสถาน” สถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งแต่ละปีมีผู้สนใจเข้าฟังธรรมหลายพันคน, “บ้านสายสัมพันธ์” บ้านแห่งชีวิตใหม่ของผู้หญิงที่ประสบปัญหาชีวิต, “สาวิกาสิกขาลัย” มหาวิชชาลัยธรรมะเพื่อเยียวยาสังคม รวมไปถึงโครงการอื่นๆ อีกมากมายที่แม่ชีเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อน

นอกจากนี้ แม่ชีศันสนีย์ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวแทนนำเสียงผู้หญิงไปสู่เวทีโลก ในงานประชุมผู้นำสตรีทางศาสนาและจิตวิญญาณเพื่อสันติภาพโลก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี พ.ศ. 2545 ทำให้ แม่ชีได้เจอกับ วิคตอเรีย โฮลท์ มืออาชีพด้านการเขียนบทและการสร้างภาพยนตร์ คิดนำมาใช้เป็นชื่อของภาพยนตร์สารคดี ซึ่งเธอตั้งมั่นว่าจะนำเสนอการดำเนินชีวิตตามอย่างวิถีพุทธของ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต สตรีผู้ที่เธอประทับใจอย่างยิ่งในงานประชุมผู้นำสตรีทางศาสนาและจิตวิญญาณเพื่อสันติภาพโลก กรุงเจนีวา เมื่อปี 2000

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวของแม่ชีศันสนีย์ ยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง อะ วอล์ก ออฟ วิสดอม (A Walk of Wisdom) ที่ฉายในหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย

ล่าสุด มูลนิธิเสถียรธรรมสถาน ได้ออกแถลงการณ์ (ฉบับที่ 2) แจ้งข่าวการคืนสู่ธรรมชาติของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ดังนี้