เตือนภัย “ซิม ออริจินอล” ตำรวจสคบ.จับแล้ว เปิดใหม่ไม่หยุด

4398

“สคบ.ยุคตำรวจ” ประเดิมกวดเข้มขายตรง “เทา-ดำ” ผนึกกำลังจับมือ “บก.ปคบ.” เข้าตรวจสอบ “ออริจินอล เน็ทเวิร์ค” แฝดน้อง “ไนน์ท็อปอัพ” ย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี เครือข่ายขายตรงค้า “ซิมการ์ด” โทรศัพท์มือถือ “Sim My World” พร้อมอายัดสินค้าและแผนการจ่ายผลตอบแทน ก่อนนำมาตรวจสอบ 6 รายการ รวมทั้งสอบปากคำพยานบางส่วน  ก่อนเรียก “ผู้บริหาร” ที่เกี่ยวข้องแจงข้อจริงต่อไป

พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผย เส้นทางนักขาย ว่า หลังเข้ารับตำแหน่งได้เริ่มงานด้วยการเตรียมเข้าตรวจสอบธุรกิจขายตรงทุกบริษัทไม่ว่าจะได้รับจดทะเบียน และไม่ได้รับจดทะเบียน พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ออริจินอล เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่งทางสคบ.เองได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคว่าบริษัทมีการกระทำการดำเนินธุรกิจที่ผิดเงื่อนไขจากการขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงกับทางสคบ.

“จากการได้เรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคนั้น เราได้เริ่มทำหนังสือให้ผู้บริหารเข้ามาชี้แจงถึงการประกอบธุรกิจ ว่าบริษัทกระทำการผิดเงื่อนไขจริงหรือเปล่าในการประกอบกิจการ” พ.ต.อ.ประทีปกล่าว และว่า

โดยเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2559 เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มอบหมายให้กองฯขายตรงสคบ. พร้อมด้วยเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจสอบ บริษัท ออริจินอล เน็ทเวิร์ค จำกัด ย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานีไปเรียบร้อยแล้ว

การตรวจสอบได้พบแต่นายสิษฐิพงศ์ จักร์คำ รับว่าเป็นผู้ดูแลบริษัทฯ จึงได้ยื่นหนังสือขอเข้าทำการตรวจสอบบริษัทฯ โดยนายสิษฐิพงศ์ ลงชื่อรับเอกสาร และยินยอมให้ความร่วมมือต่อคณะเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ และในขณะตรวจสอบมีประชาชนจำนวนหนึ่งเข้าร่วมรับฟังการบรรยายแผนลงทุนทำธุรกิจร่วมกับบริษัทฯ โดยซื้อซิมการ์ด (Sim My World) เป็นสินค้า

ทั้งนี้ บริษัท ออริจินอล เน็ทเวิร์ค จำกัด ได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2557 โดยได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอาง รวม 2 รายการ ไม่มีการขอจดทะเบียนการทำธุรกิจเคาน์เตอร์เซอร์วิสและซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Sim My World) แต่อย่างใด

ดังนั้นล่าสุดหลังการตรวจสอบบริษัท ออริจินอล เน็ทเวิร์ค จำกัดของ สคบ.และบก.ปคบ.ในเบื้องต้น ได้ทำการตรวจอายัดผลิตภัณฑ์และแผนการจ่ายผลตอบแทน เพื่อนำมาตรวจสอบจำนวน 6 รายการ รวมทั้งสอบปากคำพยานบางส่วน เพื่อประกอบการดำเนินการต่อไป

อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 2558 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ครั้งเมื่อนั่งตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI  ได้กำลังเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เลขที่19/68-69 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ออริจินอล เน็ทเวิร์ค จำกัด และได้ออกหมายจับกรรมการบริษัททั้งหมด 4 คน คือนายสิทธิไกร ตลับนาค , นายมนตรี หรือจอมพงษ์ มณีวงศ์,นายไตรทศ สื่อจินดาภรณ์, และนายธรรมรัตน์ มงคลบวรรัตน์ รวมทั้งยึดอายัดทรัพย์เป็นที่ดินที่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระบุรี, อ.วังม่วง จ.ลพบุรี,เงินในบัญชีและรถยนต์เมอร์ซีเดสเบนซ์ที่จัดโปรโมชั่นมอบให้สมาชิกกว่า 20 คัน รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 200 ล้านบาท

โดยการบุกค้นและออกหมายจับเป็นคดีความครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรรมการ 3 ใน 4 คนของบริษัท ออริจินอล เน็ทเวิร์ค จำกัด เป็นคนกลุ่มเดียวกันกับผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัท บริษัท ไนน์ท็อปอัพ จำกัด ซึ่งได้ตกเป็นคดีความแชร์ลูกโซ่ไปแล้วในขณะนี้ ด้วยไนน์ท็อปอัพดำเนินธุรกิจเครือข่ายเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนให้มาลงทุน ซื้อโปรแกรมระบบเคาน์เตอร์เซอร์วิสและหน่วยลงทุน หรือ RP ที่ระบุว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนร้อยละ 10 ตั้งแต่เมื่อในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2558

แต่เมื่อแม่ทีมไม่สามารถหาคนมาลงทุนเพิ่มได้ทำให้เกิดความเสียหายกับผู้ลงทุนประมาณ 2,000 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 500 ล้านบาทซึ่งลำพังเพียงระบบเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่เป็นสินค้าหลักได้เงินต่อใบเสร็จประมาณ 3 บาท นั้นไม่เป็นความผิด โดยมีการลงทุนตั้งแต่ 1,500 – 12,500 บาทในราคาแต่ละแฟรนไชส์ แต่ที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่คือการขายระบบ RP ที่มีอัตราดอกเบี้ยตอบแทนเกินกำหนด เข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ การระดมชักชวนสมาชิกมาลงทุน ผิดพระราชบัญญัติกู้ยืมเงินดีเอสไอจึงรับเป็นคดีพิเศษไปก่อนหน้านี้

 

สำหรับบริษัท ออริจินอล เน็ทเวิร์ค จำกัด หลังจากมีการเข้าตรวจค้นของดีเอสไอเมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านไปแล้วนั้น ต่อมามีการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงต่อโดยการนำซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บริษัท มายเวิลด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตซิมการ์ดดังกล่าวมาจำหน่าย พร้อมได้ทำสัญญาซื้อสัญญาณจาก CAT ในนามบริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ จำกัด เพื่อรองรับระบบการใช้ซิมโทรศัพท์มายเวิลด์ และทำการชักชวนประชาชนให้มาร่วมลงทุนกับบริษัทเหมือนที่ไนน์ท็อปอัพเคยดำเนินการก่อนหน้านี้ในรูปแบบขายตรงจ่ายค่าบิลผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสภายใต้คอนเซปต์การชวนคนว่า “ปาก ต่อ ปาก ใช้ดีแล้วบอกต่อ เพื่อจะได้เอาเงินส่วนนั้นมาแบ่งๆกัน” นั่นเอง