‘ลุงป้อม’ผลักดัน ครม.อนุมัติ เด็กตาดีกา2แสนคน-เด็กพุทธได้กินอาหารกลางวัน

375

นักเรียนตาดีกา และ ศพอ. เฮ!! ครม.อนุมัติหลักการโครงการส่งเสริมการสร้างคนดีตามหลักศาสนาฯ หนุนอาหารกลางวันแก่เด็กชายแดนใต้ กว่า 2 แสนราย!

วันนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2566) คณะรัฐมนตรี นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อนุมัติหลักการโครงการส่งเสริมการสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนาที่ถูกต้อง เพื่อสืบสานและรักษาสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2566-2570 ภายหลังผ่านมติที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่มีรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน และเห็นชอบเป็นหลักการไว้เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โครงการฯ เป็นไปตามที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้มีการร่วมประชุมปรึกษาหารือผู้นำศาสนาระดับสูงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำโครงการฯ มุ่งหวังให้โรงเรียนตาดีกา และศูนย์พระพุทธศาสนา (ศพอ.) วันอาทิตย์ เป็นโรงเรียนจัดการศึกษาทางศาสนาในพื้นที่ จชต. ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศาสนาที่มีความสำคัญ และจะเป็นการปลูกฝังหลักการทางศาสนาเบื้องต้นตั้งแต่เยาว์วัยแก่เด็กถึงอายุ 12 ปี

โครงการส่งเสริมการสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนาที่ถูกต้องฯ ดำเนินการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนโรงเรียนตาดีกาและศพอ. ในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ตาดีกา 288 แห่ง จำนวนนักเรียน 191,024 คน และ ศพอ. 45 แห่ง มีจำนวน นักเรียน 12,582 คน โดยโครงการมีการนำเสนอให้มีการอุดหนุน ตั้งแต่ปี 2566-2570 รวมจำนวน 5 ปี เป็นเงินกว่า 2 พันล้านบาท คิดเป็นค่าอาหารกลางวัน รายหัวต่อมื้อจำนวน 20 บาทต่อคนต่อวัน

นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณเพื่อการพัฒนาศักยภาพเด็กและครูผู้สอนในโรงเรียน เช่น กิจกรรมค่ายการเรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของเด็กในตาดีกา และ ศพอ. ในลักษณะค่ายผู้นำและผู้นำร่วมของทั้งสองศาสนา, กิจกรรมการพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนในตาดีกา และ ศพอ. และกิจกรรมอำนวยการและประเมินผล โดยมี ศอ.บต. ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยดำเนินการซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นกลวิธีสำคัญในการสร้างสมาธิและแรงจูงใจต่อการศึกษาเล่าเรียนหลักการทางศาสนา รวมทั้ง เกิดกระบวนการขัดเกลาทางสังคมและศาสนา การสร้างพื้นที่กลางของพหุสังคมที่ทุกศาสนาสามารถเรียนรู้ร่วมกันได้และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและผู้นำทางศาสนาให้มีการพัฒนาและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การสร้างสังคมของคนดีอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และจะเป็นพลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้สืบไป