เปิดชื่อพรรคร่วม ตั้งรัฐบาล ‘เพื่อไทย’ ส.ว.-ปชป. บางส่วนโหวตให้ ‘เศรษฐา’ นั่งนายกฯ มั่นใจได้เสียงเกิน 376 ปล่อย ก.ก.กอดสองลุงนั่งฝ่ายค้าน พร้อม เปิดโผครม.เพื่อไทย “ชลน่าน” มท.1 – “อุ๊งอิ๊ง” นั่ง กต.
วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ถึงการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพท. ที่จะมีขึ้นวันนี้ (3 ส.ค.)เวลา 15.00 น. ที่ รัฐสภา โดยหลังจากชัดเจนแล้วว่าพรรคพท. ได้แยกทางกับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล พรรคพท.จึงได้รวบรวมเสียงจากพรรคการเมืองที่จะยกมือสนับสนุนให้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคพท. ประกอบด้วย พรรคพท. 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง และ พรรคหนึ่งเสียงที่เหลือยกเว้นพรรคเป็นธรรม (ปธ.) ประกอบด้วย พรรคเสรีรวมไทย (สร.) ประชาธิปไตยใหม่ พรรคใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสียงส่วนใหญ่ประมาณ 19-22 เสียงจากทั้งหมด 25 เสียงจะยกมือให้ ยกเว้นกลุ่มของนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค
ขณะที่ในส่วนของ ส.ว.ทางแกนนำพรรคพท.มีความมั่นใจว่าหลังจากไม่มีพรรคก.ก.ร่วมรัฐบาล ลดเงื่อนไขมาตรา 112 ไปแล้วจะได้รับเสียงสนับสนุนประมาณ 100-150 เสียงขึ้นไป จึงมั่นใจว่ามีเสียงเพียงพอให้ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะประกอบไปด้วยเสียงของ พรรค ก.ก. 151 เสียง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 36 เสียง พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) 6 เสียง และพรรคเป็นธรรม (ปธ.) 1 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นายกรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทย ได้วางตัวบุคคลดำรงตำแหน่งใน ครม.ดังนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.มหาดไทย, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รมว.ต่างประเทศ, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.คมนาคม, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมว.พลังงาน โดยมี รมว.คลัง ชื่อย่อ อ.ซึ่งเป็นคนนอก เข้าดำรงตำแหน่ง
ส่วนที่เหลือจะเป็นกระทรวงต่างๆ ที่พรรคเพื่อไทยจะนำไปเปิดเจรจา กับพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย พาณิชย์, อุตสาหกรรม, กลาโหม, สาธารณสุข, เกษตรและสหกรณ์, ยุติธรรม, ดีอีเอส, ศึกษาธิการ, ท่องเที่ยวกีฬาและกีฬา, วัฒนธรรม, แรงงาน, พัฒนาสังคมฯ, อุดมศึกษาฯ
