กองทัพอิสราเอล เผยมีทหารเสียชีวิต 8 นายในเหตุโจมตีทางตอนใต้ของกาซา เผยเป็นหนึ่งในการสูญเสียมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตี 7 ต.ค. ท่ามกลางการสู้รบที่ยืดเยื้อ 9 เดือน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 3.5 หมื่นคนในปาเลสไตน์
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า มีทหารอิสราเอล เสียชีวิตถึง 8 นาย หลังถูกโจมตีในเมืองทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ซึ่งนับเป็นหนึ่งในความสูญเสียจากเหตุโจมตีเหตุการณ์เดียวที่มากที่สุดของอิสราเอล นับตั้งแต่เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว
กองทัพอิสราเอลระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนเหตุการณ์นี้ แต่จากข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่า รถหุ้มเกราะคันหนึ่งในขบวนถูกโจมตีด้วยระเบิดหรือขีปนาวุธต่อต้านรถถังเมื่อเวลาประมาณ 5.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะกำลังร่วมปฏิบัติภารกิจโจมตีเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้าย ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทัล อัลสุลต่าน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือของใคร
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่การสู้รบในฉนวนกาซายืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 9 แล้ว หลังเกิดเหตุโจมตีดังกล่าวที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลกว่า 1,200 คน ขณะที่การสู้รบที่ยืดเยื้อถึงปัจจุบันทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3.5 หมื่นคนในกาซา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และยังมีผู้ที่ต้องอพยพพลัดถิ่นหนีภัยการสู้รบอีกมากกว่า 2.3 ล้านคน
ขณะที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรกลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวอิสราเอลที่ชื่อว่า Tsav 9 ในฐานะกลุ่มแนวคิดสุดโต่งที่ใช้ความรุนแรง หลังจากกลุ่มนี้พยายามขัดขวางการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังกาซา และยังมีการโจมตีรถบรรทุกที่ใช้ขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ด้วย
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า กลุ่ม Tsav 9 เริ่มขัดขวางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ด่านเคเรม ชาลอม มาตั้งแต่ต้นปีนี้แล้ว แต่ภายหลังยิ่งเพิ่มความรุนแรงด้วยการจุดไฟเผารถบรรทุกและทำร้ายคนขับรถรวมถึงทหารอิสราเอลด้วย จึงนำไปสู่การประกาศคว่ำบาตรล่าสุด
ทั้งนี้ หน่วยงานของสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ (UNRWA) ระบุว่า มีเด็กๆ ในกาซามากกว่า 5 หมื่นคน ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วนจากภาวะขาดสารอาหารอย่างรุนแรง โดยสืบเนื่องจากการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำกัด ทำให้พลเรือนในกาซายังคงหิวโหยอย่างสิ้นหวัง
