ฝากขังวันนี้’ตั๊ก-เบียร์’ ค้านประกันตัว ตรวจค้นบ้าน พบปืน 4 กระบอก-ทองจำนวนมาก

31

ตำรวจสคบ. สอบปากคำ’ตั๊ก-เบียร์’ ทั้ง 2 คน ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใดๆ ขณะเดียวกันพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้จากบ้านพัก ซอยรามอินทรา 65 พบว่า มีทั้งตู้เซฟจำนวนหนึ่ง, อาวุธปืนมีทะเบียน 4 กระบอก, ทองคำ

จากกรณี ตำรวจ บก.ปคบ. สนธิกำลังพร้อมหมายศาลเข้าจับกุม น.ส.กรกนก หรือตั๊ก และนายกานต์พล หรือเบียร์ ภายในบ้านพักซอยรามอินทรา 65 มาคุมขังยังห้องขังชั้น 1 อาคารศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. กรณีไลฟ์สดขายทองและมีผู้เสียหายแจ้งความจำนวนมาก พร้อมแจ้ง 4 ข้อหาดำเนินคดี ประกอบด้วย ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นผู้อื่นโฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จฯ นั้น

เมื่อคืนที่ผ่านมาทั้ง 2 คน นอนในห้องขัง บช.ก. ซึ่งในตอนกลางคืน ตั๊ก นอนไม่หลับต้องขอยานอนหลับจากเจ้าหน้าที่

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 1 ต.ค. 67 รายข่าวจากชุดจับกุม เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใดๆ ขณะเดียวกันพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้จากบ้านพัก ซอยรามอินทรา 65 พบว่า มีทั้งตู้เซฟจำนวนหนึ่ง, อาวุธปืนมีทะเบียน 4 กระบอก, ทองคำบางส่วน และหลักฐานอื่นๆ เป็นเอกสารที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ เช่น รถหรูที่มีกระแสข่าวว่าถูกขนย้ายออกจากบ้านพักไปแล้วนั้น เบื้องต้นยังไม่พบข้อมูล แต่ได้สั่งการให้ตำรวจเฝ้าติดตามแนวชายแดน

ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจจะส่งรายงานการสอบสวนทางคดีให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด เนื่องจากคดีนี้ เป็นมูลฐานความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก พนักงานสอบสวนจึงคัดค้านการประกันตัว และคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ฝากขังต่อศาลอาญาในวันนี้

พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก. ปคบ. กล่าวว่า สำหรับในวันนี้พนักงานสอบสวนก็คัดค้านการประกันตัวให้ทั้งคู่ไปต่อสู้ในชั้นศาล ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในขณะที่นำตัวผู้ต้องหาไปส่งศาล ขอไม่เบียดเสียดหรือเข้าไปใกล้คุณตั๊ก เนื่องจากเจ้าตัวแจ้งว่ามีอาการป่วยเป็นโรคประจำตัว ส่วนมีประวัติการรักษาหรือไม่นั้น ทางตำรวจยังไม่ได้ตรวจสอบ

สำหรับประเด็นที่มีคนสนิทของแม่ตั๊ก 2-3 คน ซึ่งเป็นเลขาของตั๊ก เข้ามากันนักข่าวเพื่อไม่ให้เข้าไปใกล้เจ้านายเขานั้น ทางตำรวจก็เข้าใจได้ เนื่องจากแม่ตั๊กไม่สบาย และทางอีกฝ่ายก็กลัวว่าผู้เสียหายจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย

โดยทางตำรวจเป็นคนร้องขอความช่วยเหลือเอง คิดซะว่าเป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะที่ปฏิบัติงาน เพราะเมื่อคืนกำลังของตำรวจมีน้อย ถ้าหากว่าผู้ต้องหาเป็นอะไรในระหว่างที่สอบปากคำทางตำรวจจะแย่

ส่วนประเด็นที่มีภาพหลุดออกไปในโลกออนไลน์ว่าในขณะสอบปากคำตั๊ก ได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสแกนหน้าทำธุรกรรมทางการเงินนั้น ตนไม่ทราบ แต่อีกฝ่ายบอกว่าโอนเงินอยู่ เนื่องจากยังคงต้องเยียวยาและรับผิดชอบผู้เสียหายต่อ วันนี้เขาก็จ่าย จ่ายทุกวัน

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่ากรณี ฉ้อโกงแบบนี้ทรัพย์สินส่วนใหญ่ในระหว่างที่ถูกจับ สามารถโอนเงินได้หรือไม่นั้น ทางตำรวจแจ้งว่า คุณตั๊ก ทำธุรกิจมากมาย เราต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าทรัพย์สินส่วนไหนที่มาจากการฉ้อโกง ซึ่งเราก็จะอายัดเป็นส่วนๆไป แต่ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ได้รายงาน ปปง.ไปแล้ว และมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาสืบทรัพย์ ซึ่งถ้าพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินคดีทันที

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปฏิบัติกับแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ เหมือนผู้ต้องหาทั่วไป ไม่มีปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษอย่างแน่นอน