ลำดับเหตุการณ์ในซีเรีย การลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาล ‘โจลานี’

ลำดับเหตุการณ์คร่าวๆให้เห็นความเชื่อมโยงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรีย

1. ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ รอยเตอร์รายงานข่าวว่าอิสราเอลกำลังล็อบบี้สหรัฐอย่างหนักเพื่อไม่ปล่อยให้ซีเรียได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ หากการเมืองซีเรียมั่นคง จะเปิดทางให้พวกอิสลามิสต์ขึ้นสู่อำนาจซึ่งจะเป็นอันตรายต่อชายแดนด้านเหนือของตน ถึงขนาดขอให้รัสเซียคงฐานทัพต่อไปเพื่อถ่วงอำนาจตุรกี ตอนทรัมป์ขึ้นเป็น ปธน.ใหม่ๆนั้น สหรัฐมีท่าทีว่าจะถอนทหารทั้งหมดออกจากซีเรีย

https://www.facebook.com/share/p/18TZw8WMNk/

2. พร้อมๆกับการส่งทหารรุกล้ำเลยจากเขตบัพเฟอร์โซน UN เข้าไปในดินแดนของซีเรีย อิสราเอลก็ได้ประกาศจะสร้างเขตปลอดทหารทางภาคใต้ของซีเรียเพื่อคุ้มครองชาวดรูซในจังหวัดซูเวย์ดา อ้างว่าชาวดรูซในอิสราเอลร้องขอ เพราะรัฐบาลใหม่ซีเรียกดขี่ แต่ผู้นำดรูซซีเรียให้คำตอบว่าอย่ามายุ่งกับเรื่องภายในของตน ย้ำว่านับแต่สงครามกลางเมืองซีเรียปะทุขึ้นเมื่อปี 2011 ชาวดรูซในจังหวัดซูเวย์ดาต่างยืนหยัดในหลักการรวมเป็นส่วนหนึ่งของซีเรียเสมอมา อย่าว่าแต่ชาวดรูซซีเรียเลย แม้แต่ชาวดรูซในเขตยึดครองที่ราบสูงโกลัน ก็มีเพียงส่วนน้อยที่ยอมเป็นพลเมืองอิสราเอล ส่วนใหญ่ยังถือว่าตนเองเป็นชาวซีเรีย ทางการอิสราเอลต้องออกบัตรพำนักชั่วคราวให้แทน https://www.facebook.com/share/p/16RFVLrdg7/

ล่าสุด มีความพยายามลอบสังหารผู้นำดรูซซีเรียคนสำคัญที่ยืนหยัดหลักการรวมชาติกับรัฐบาลดามัสกัส และปรากฏมีสื่อโซเชียลอย่าง Suwayda 24 คอยปลุกปั่นชาวดรูซให้เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของอิสราเอล

3. มัซลูม อับดี ผู้นำเคิร์ด YPG ประกาศว่าพร้อมจะรับความช่วยเหลือจากอิสราเอล ถ้าอิสราเอลไม่เสนอหรือแสดงท่าที อยู่ๆ แกจะประกาศอย่างนั้นเองได้หรือ ?

4. อย่างคาดไม่ถึง ในวันที่ 6 มีนาคม กองกำลังที่จงรักภักดีต่ออดีต ปธน.บัชชาร์ อัลอะซัด ได้โจมตีที่ทำการรัฐบาลหลายแห่งพร้อมๆกัน รวมถึงโรงพยาบาล โรงเรียนนายเรือ ฯลฯ ในจังหวัดทาร์ซูสและลาตาเกีย จังหวัดชายฝั่งทะเลที่มีชนส่วนใหญ่เป็นชีอะห์อาละวี ที่เคยเป็นฐานที่มั่นของตระกูลอัลอะซัด ทหารรัฐบาลที่มีอยู่รับมือไม่ไหว จึงมีการระดมทหารจากส่วนกลางไปช่วย
ข้อมูลจาก Syrian Revolution Network ระบุว่ากองกำลังติดอาวุธอยู่ภายใต้การนำของฆอยยัส ดัลลา นายทหารเก่ายุคบัชชาร์ ได้รับการสนับสนุนจากฮิซบุลลอฮ กองกำลังติดอาวุธชีอะห์อิรัค และเคิร์ด YPG
การสู้รบทำให้ประชาชนหนีไปหลบภัยในฐานทัพรัสเซียจำนวนหลายพันคน

ในช่วง 7-8 มีนาคม ทหารรัฐบาลได้บุกตีที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธซึ่งรัฐบาลเรียกว่า “ซากที่หลงเหลืออยู่ของระบอบอัลอะซัด” (فلول نظام الأسد) ตามเมืองท่าสำคัญๆได้แก่บานิยาส ทาร์ทุส ลาตาเกียและญับละห์ คืนมาได้เกือบหมด แล้วค่อยย้อนไปตีพื้นที่รอบในซึ่งเป็นป่าเขา โดยเฉพาะเมืองกัรดาฮะห์ บ้านเกิดของต้นตระกูลอัลอะซัด

5. ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม เริ่มมีข่าวลือเรื่องการสังหารหมู่ชาวอาละวีโดยทหารรัฐบาลซีเรีย แหล่งข่าวหลายแหล่งระบุว่ามีพลเรือนนับร้อยคนเสียชีวิตจากการสังหารหมู่และการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลกับกองกำลังติดอาวุธ สื่อตะวันตกหลายแห่งอ้างตัวเลขรายงานจาก SOHR (องค์กรสิทธิมนุษยชนที่มีฐานอยู่ที่อังกฤษ) ว่ามีประชาชนถูกสังหาร 973 ศพ เฉพาะทาร์ทุสและลาตาเกีย 807 คน (เป็นรายงานฉบับภาษาอาหรับ) ขณะที่ข้อมูลจาก SNHR (สำนักงานที่ลอนดอน) กลับระบุว่ามีประชาชน 190 คนถูกสังหารโดยกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาล ตัวเลขเหล่านี้เองเป็นที่มาของเหตุการณ์การที่เรียกว่า “การสังหารหมู่ชนกลุ่มน้อยอะลาวีย์ 1,000 ศพ” โดยสื่อต่างๆ ในเวลาต่อมา

ปธน.ซีเรียออกแถลงการณ์จะปกป้องความปลอดภัยของชนทุกกลุ่มศาสนา/ชาติพันธุ์ ถ้าใครฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและห้ามไม่ให้มีการปฏิบัติที่เลวร้ายต่อเชลย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงอ้างว่าหลายกรณีก่อขึ้นโดยกองกำลังติดอาวุธต่อชาวอาละวีที่มีใจฝักไผ่รัฐบาล ซึ่งในที่สุด ปธน.ก็ได้ตั้งคณะทำงานอิสระเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้
https://www.facebook.com/share/v/1A67Y9WR2L/

6. สงครามสื่อโซเซียล : มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่อ้างว่าเป็นการสังหารหมู่ชนกลุ่มน้อยอาละวี รวมถึงเรื่องราวของบุคคลหรือครอบครัวชาวอาละวีที่ถูกทหารรัฐบาลฆ่า โดยมากบนแพลทฟอร์ม x โดยบัญชีผู้ใช้จากเลบานอน อิรัค ซีเรีย รวมถึงฝั่งเคิร์ด เพื่อยืนยันการสังหารหมู่ชนกลุ่มน้อย 1,000 ศพโดยรัฐบาล

โพสต์เหล่านี้กำลังถูกตรวจสอบต่อมาโดย @VeSyria และพบว่าจำนวนมากเป็นข่าวบิดเบือน เป็นคลิป/ภาพที่อื่นในอดีตที่ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ขณะนี้ บุคคล/ครอบครัวที่ปรากฏในรูปที่ถูกอ้าง หลายคนยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปนานแล้ว บางคลิปเป็นเหตุการณ์สมัยสงครามกลางเมืองซีเรียยุคบัชชาร์ ก่อขึ้นโดยทหารรัฐบาลเก่าซีเรีย/ISIS/Al-Nusra ภาพเหตุการณ์ตอนที่อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มค่ายเจนินในเวสต์แบงค์ ภาพนักโทษอิหร่านถูกรถเครนแขวนคอ(อันนี้เห็นจนเบื่อ) หรือแม้แต่ภาพที่อ้างว่าเป็นชาวอาละวีถูกตัดคอ ก็เป็นภาพชายกำลังนอนมุดหัวในหลุม อันเป็นพิธีกรรมหนึ่งของศาสนาฮินดู
มีสตรีอเมริกันรายหนึ่งจะฟ้อง X ที่ปล่อยให้มีคนเอาภาพเธอไปโพสต์ว่าเป็นเหยื่อสังหารหมู่โดยทหารรัฐบาลซีเรีย

7. Moscows News สื่อรัสเซียบนแพลตฟอร์ม X เผยแพร่คำพูดของผู้นำอาละวีในตุรกีว่าเขาได้รับการร้องขอจากชาวอาละวีซีเรียให้ไปขอความช่วยเหลืออิสราเอลให้ปกป้อง พี่แกจะเนียนทำเป็นลืมไปได้ !! 3-4 เดือนก่อนนี้ อาละวีซีเรียนี่คือฐานกำลังของบัชชาร์ที่ร่วมมือกับฮิซบุลเลาะห์ ศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล ที่เคยยิงจรวดถล่มใส่กัน และถูกอิสราเอลสังหารผู้นำตายยกทีมอยู่เลย

8. ชาวคริสเตียนซีเรียถูกลากไปเกี่ยวข้องกับข่าวบิดเบือนเรื่องการสังหารหมู่ด้วย โดยสื่อโซเชียลของเลบานอนระบุว่ามีคริสเตียนซีเรียหนีการล่าสังหารจากทาร์ทุส มีการเผยแพร่ภาพเบลอที่ระบุว่าเป็นครอบครัวหนึ่งที่ถูกสังหารหมู่ (ถูกพิสูจน์ต่อมาว่าจริงๆแล้วเป็นภาพครอบครัวนั้นกำลังนอนพักผ่อนกัน) และสุดท้าย @Visegrad24 โพสต์ว่ามีคริสเตียนมากกว่า 100 ศพถูกสังหารหมู่

ร้อนถึง Fr. Spyridon Tanous บาทหลวงกรีกออร์โธดอกซ์ (@opc4human) ต้องออกมายืนยันว่าคริสเตียนไม่ได้ตกเป็นเป้าหมายของความรุนแรงจากเหตุการณ์นี้ รวมทั้งทางโบสถ์แห่งลาตาเกียก็มีแถลงการณ์ยืนยันว่าไม่ได้เปิดโบสถ์ให้คริสเตียนซีเรียซึ่งหนีการฆ่าหมู่เข้าไปหลบภัยแต่อย่างใด ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตามที่แชร์กันในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด

9. ทีนี้ก็ครบเลย ท่าทีของสหรัฐปรากฏตามคำแถลงของ รมต.ต่างประเทศเมื่อวานที่ว่า “สหรัฐอเมริกายืนหยัดเคียงข้างชนกลุ่มน้อยทางศาสนาและชาติพันธุ์ของซีเรีย ทั้งคริสเตียน ดรูซ อาละวี และเคิร์ด” ทั้งย้ำว่า “ผู้ก่อเหตุสังหารหมู่ชนกลุ่มน้อยในซีเรียเหล่านี้” ต้องรับผิดชอบ แต่ไม่เอ่ยถึงกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนอัลอะซัดซึ่งเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีทหารรัฐบาลเลยซักนิด
วันนี้ สหรัฐและรัสเซียจับมือกันยื่นที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง UN ให้พิจารณาเหตุการณ์ความรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยในซีเรีย คอยดูว่ามติจะว่าอย่างไร รัฐบาลซีเรียโดนแน่

10. ต่างกับ EU ที่ประณามกองกำลังฝ่ายอัลอะซัดที่โจมตีกองกำลังทหารรัฐบาลและต่อพลเรือน EU ได้ประณามความพยายามที่จะบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศและแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงอย่างสันติที่ยั่งยืน ครอบคลุม และเคารพชาวซีเรียทุกคนในความหลากหลาย
อียูและอังกฤษมีท่าทีต้องการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อซีเรียที่เคยมีมาตั้งแต่ยุคบัชชาร์ การมีเสถียรภาพของรัฐบาลซีเรียจะเปิดทางไปสู่การอพยพกลับประเทศของชาวซีเรียนับล้านที่ชาติยุโรปต้องแบกภาระอยู่ อังกฤษเพิ่งประกาศยกเลิกคว่ำบาตรหลายสิบรายการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และล่าสุดสวิสก็ได้ยกเลิกการคว่ำบาตรด้านพลังงานและการขนส่ง รวมทั้งคืนทรัพย์สินที่ตระกูลอัลอะซัดไปฝากไว้แก่รัฐบาลซีเรีย
เมื่อวาน รมต.ต่างประเทศอิสราเอลดิ้นเตือนชาติยุโรปบอกว่าตื่นได้แล้ว เห็นมั้ย คุณกำลังจะมอบรางวัลและสิทธิพิเศษแก่รัฐบาลอิสลามิสต์ที่เพิ่งสังหารหมู่ชนกลุ่มน้อยพันศพมาหมาดๆ

11. เมื่อวานอีกเช่นกัน ซีเรียและประเทศเพื่อนบ้าน(ตุรกี เลบานอน อิรัค จอร์แดน) พบกันที่อัมมานเพื่อยืนยันสนับสนุนความเป็นหนึ่งเดียวของซีเรีย ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน เรียกร้องให้อิสราเอลถอนทหารออกจากซีเรีย พร้อมกันนั้น รัฐบาลซีเรียได้จัดส่งทหารไปประจำทางใต้ติดจอร์แดน แถบเมืองดัรอา โดยไม่สนใจคำขู่ของอิสราเอลก่อนหน้านั้น
ปธน.ซีเรียแถลงล่าสุดว่า “ซากของระบอบการปกครองก่อนหน้านี้ ด้วยการสนับสนุนจากต่างชาติ พยายามสร้างความขัดแย้งและจะลากไปสู่สงครามกลางเมืองอีกครั้งเพื่อแบ่งแยกประเทศ”

12. วันนี้กองทัพรัฐบาลซีเรียประกาศยุติปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเล พร้อมส่งมอบพื้นที่ให้ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงในท้องถิ่นดูแลต่อไป
การสู้รบระหว่างวันที่ 6-10 มีนาคม มีทหารรัฐบาลเสียชีวิต 231 ศพ และกองกำลังซากขยะจากระบอบเก่า 250 ศพ
คณะผู้แทนของ UN เดินทางถึงพื้นที่ชายฝั่งเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่แล้ว

Cr.Khaisuddin K Abdulla