ทรัมป์เสร็จสิ้นการเยือนตะวันออกกลางวันแรกด้วยข้อตกลงอาวุธกับซาอุดิอาระเบียมูลค่าคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 4.6 ล้านล้านบาท
ดร.ปกร์ ปรียากร อดีตคณบดี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า สรุปการเดินทางเยือนซาอุอารเบียของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ว่านับเป็นวันที่สำคัญและควรให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบีย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเป็นครั้งที่สอง
วันนี้เกิดอะไรขึ้น?
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันที่เต็มไปด้วยแขก VIP ทรัมป์และมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ก็ได้ลงนามข้อตกลงหลายฉบับรวมถึง ข้อตกลงด้านอาวุธมูลค่า 142,000 ล้านดอลลาร์ (107,000 ล้านปอนด์)(ประมาณ 4.6 ล้านล้านบาท Mtoday)
ในสุนทรพจน์ยาว 1 ชั่วโมงในเวลาต่อมาของวันเดียวกัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวชื่นชมมกุฎราชกุมาร โดยกล่าวว่า สหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียกำลังดำเนินการเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา “แข็งแกร่งมากกว่าที่เคยเป็นมา”
เขายังประกาศว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียเพื่อให้ประเทศนี้ “มีโอกาสยิ่งใหญ่”
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าเขาต้องการบรรลุข้อตกลงกับอิหร่านแต่เตือนผู้นำของประเทศว่าหากพวกเขาปฏิเสธ “ช่อมะกอก” ของเขา เขาจะ “กดดันอย่างหนักและสูงสุด”
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงสงครามในฉนวนกาซาว่า ประชาชนพลเรือน “สมควรมีอนาคตที่ดีกว่านี้” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ มีรายงานว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบรายที่โรงพยาบาลในเมืองคานยูนิส
ในทางตรงกันข้าม โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ได้พูดอะไรในงานดังกล่าวน้อยมาก โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียมี “ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้ง” และจะ “สร้าง” ร่วมกันต่อไป
ทรัมป์ผลักดัน ‘ยุคทองของตะวันออกกลาง’
ทรัมป์กล่าวว่า “เราได้ร่วมกันก้าวหน้าอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนและมีความก้าวหน้าอย่างมาก” และเสริมว่า “รุ่งอรุณของวันใหม่ที่สดใส” กำลังรอคอยประชาชนในตะวันออกกลางอยู่
“เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งพันปีที่โลกจะมองภูมิภาคนี้ไม่ใช่สถานที่แห่งความวุ่นวาย ความขัดแย้ง สงคราม และความตาย แต่เป็นดินแดนแห่งโอกาสและความหวัง” เขากล่าวต่อ
ทรัมป์กล่าวต่อไปว่ารัฐบาลของเขาได้เริ่มต้น “ยุคทองของอเมริกา” และด้วยความช่วยเหลือจากประชาชนในตะวันออกกลาง “ยุคทองของตะวันออกกลางสามารถดำเนินต่อไปเคียงข้างพวกเราได้”
“เราจะทำงานร่วมกัน เราจะประสบความสำเร็จร่วมกัน ชนะร่วมกัน และเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป” เขากล่าว
ในช่วงท้ายสุนทรพจน์ ทรัมป์ได้กล่าวขอบคุณโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ซึ่งได้รับการปรบมือยืน โดยกล่าวว่า “เราอยู่เคียงข้างคุณตลอดทาง”
ประธานาธิบดีจับมือกับมกุฎราชกุมารบนเวทีขณะเพลง YMCA ดังกระหึ่มทั่วหอประชุม
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป?
ทรัมป์เดินทางเยือนตะวันออกกลางต่อเนื่อง 4 วัน โดยจะเยือนกาตาร์ในวันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2568 และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2568 และคาดว่าจะพบกับประธานาธิบดีอาเหม็ด อัลชาราแห่งซีเรียที่ซาอุดีอาระเบียในวันพรุ่งนี้ด้วย
ก่อนหน้าการเยือนตะวันออกกลาง มีข่าวระบุ ทรัมป์จะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ และให้อิสราเอลยุติการโจมตีกาซ่า แต่ไม่มีประเด็นนี้ในการเยือนซาอุฯแต่อย่างใด(Mtoday)
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์