จุฬาราชมนตรีเป็นประธานเปิด ‘ศูนย์พัฒนาธุรกิจฮาลาลไทย’ และ ‘หอประชุมอาศิส พิทักษ์คุมพล’ พร้อมมอบทุนการศึกษา ณ มหาวิทยาลัยเกริก
วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 – ณ หอประชุมวิชาการนานาชาติ อาคาร 2 มหาวิทยาลัยเกริก นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด “ศูนย์พัฒนาธุรกิจฮาลาลไทย” และในโอกาสเดียวกันนี้ ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด “หอประชุมจุฬาราชมนตรี อาศิส พิทักษ์คุมพล” อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งคุณูปการของอดีตจุฬาราชมนตรี (นายอาศิส พิทักษ์คุมพล) จากนั้นได้เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา “ทุนจุฬาราชมนตรี” และ “ทุน UD Scholarship” ประจำปีการศึกษา 2568 เพื่อส่งเสริมอนาคตทางการศึกษาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฮาลาลของประเทศอย่างยั่งยืน
ในพิธีมีคณะผู้บริหารระดับสูงและบุคคลสำคัญเข้าร่วมงาน นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.จรัญ มะลูลีม รองอธิการบดีฝ่ายต่างประเทศและคณบดีวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเกริก, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานคณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านยุทธศาสตร์, ศาสตราจารย์ ดร.อิมรอน มะลูลีม ประธานที่ปรึกษาวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ, รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ ปรียากร ผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี, นายประสิทธิ์ มะหะหมัด เลขานุการจุฬาราชมนตรี, ดร.สราวุธ และซัน รองคณบดีฝ่ายบริหารและวิเทศสัมพันธ์ และ นายธีระ ยีโกบ ผู้ช่วยกรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน
สำหรับ “ศูนย์พัฒนาธุรกิจฮาลาลไทย” จัดตั้งขึ้นด้วยพันธกิจในการเป็นศูนย์กลางเพื่อส่งเสริมและยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย โดยเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการฮาลาลให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตลอดจนให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์การตลาด และการขยายช่องทางสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน พิธีมอบทุนการศึกษา “ทุนจุฬาราชมนตรี” และ “ทุน UD Scholarship” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเกริกและสำนักจุฬาราชมนตรี มีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนมุสลิมและนักศึกษาผู้มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ผ่านกระบวนการคัดเลือกผู้มีความประพฤติดีและมีผลการเรียนที่เหมาะสม โครงการดังกล่าวสะท้อนเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เพียบพร้อมด้วยองค์ความรู้และคุณธรรมจริยธรรม เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลของไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก พร้อมทั้งเป็นการวางรากฐานทางการศึกษาอันมั่นคงให้แก่เยาวชน ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
