สำหรับคนที่สงสัยเรื่องรัฐบาลสหรัฐยึดทรัพย์บริษัทกัมพูชา ผมลองพยายามปะติดปะต่อภาพตั้งแต่เมื่อเช้า แต่ยังไม่ครบครับ ไว้มาทยอย update ให้เพิ่ม
เมื่อคืนนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ประกาศการดำเนินคดีครั้งใหญ่ต่อเครือข่าย Prince Group ซึ่งถูกระบุว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (Transnational Criminal Organization – TCO) ที่มีฐานในกัมพูชา และมีเครือข่ายโยงไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
1. การขึ้นบัญชีดำและการคว่ำบาตร
OFAC (หน่วยงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ) ได้ขึ้นบัญชีดำ Prince Group TCO พร้อมบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 146 ราย เนื่องจากพบว่าเครือข่ายนี้มีบทบาทสำคัญใน “pig butchering scams” หรือการหลอกลงทุนคริปโตระดับภูมิภาค OFAC ระบุด้วยว่าโครงสร้างของ Prince Group มีบริษัทลูกและบริษัทบังหน้าในหลายประเทศ ใช้ธุรกิจโรงแรม คาสิโน รีสอร์ต และโครงการอสังหาฯ เป็นฉากหน้าในการฟอกเงิน
2. เครือข่ายฟอกเงินและเหมือง Bitcoin
Prince Group มีการดำเนินกิจกรรมคริปโตผ่าน Warp Data Technology ในลาว เพื่อทำเหมือง Bitcoin และส่งต่อรายได้ไปยัง Huione Group ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเงินในเครือ โดย:
– Huione Group ถูก FinCEN ตัดออกจากระบบการเงินสหรัฐฯ ภายใต้มาตรา 311 ของ Patriot Act หลังพบว่าฟอกเงินคริปโตมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์
– ยอดเงินคริปโตที่ไหลเข้าระบบของ Huione รวมทั้งถูกและผิดกฎหมาย มีมากกว่า 98 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 4 ปีครึ่ง
– ในคดีนี้ หน่วยงานสหรัฐฯ ยังเพิ่ม Byex Exchange เข้าไปในรายชื่อที่ถูกระงับการทำธุรกรรม หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนเงินข้ามพรมแดนของเครือข่ายนี้
3. การยึด Bitcoin มูลค่า 15 พันล้านดอลลาร์
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นฟ้อง Chen Zhi (หรือ “Vincent”) ผู้ก่อตั้งและประธาน Prince Group ในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน พร้อมยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อ ยึดทรัพย์สินคริปโต มูลค่าประมาณ 127,000 BTC หรือราว 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Bitcoin เหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลสหรัฐฯ ชั่วคราวระหว่างกระบวนการทางศาล เพื่อขอให้ “ตกเป็นของรัฐ” อย่างถาวร ซึ่งถือเป็นคดียึดทรัพย์ทางแพ่งที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ มากกว่าเคส Silk Road
4. โครงสร้างบัญชีและความเคลื่อนไหวล่าสุด
กระเป๋า (wallet) ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้กระจายอยู่หลายแห่ง ทั้งบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน (exchange) และ address ที่อยู่บนบล็อกเชนโดยตรง มีรายงานว่าช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า มีการเคลื่อนไหวของ Bitcoin มูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับการดำเนินการทางกฎหมายในคดีนี้
Update: จริงด้วย เหมือนทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่จะยึดได้ จริงๆ ยึดมานานแล้ว โดยทางการสหรัฐน่าจะมี hacker มือพระกาฬเข้าไปแฮกบัญชีของ Lubian miner ที่ขุด Bitcoin มานานมากแล้ว และเข้าโจมตีบัญชีตั้งแต่ไป 2020 โดยใช้ช่องโหว่จากการสร้างเลขบัญชี (https://intel.arkm.com/explorer/entity/lubian-hacker)
ในตอนนั้นมีมูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และกลายมาเป็นมูลค่า 14.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปัจจุบัน
5. ความร่วมมือระดับนานาชาติ
การปฏิบัติการครั้งนี้เกิดจากการประสานงานระหว่างหลายหน่วยงานระดับสูง ได้แก่ DOJ, OFAC, FinCEN, FCDO และ OFSI ของสหราชอาณาจักร โดยอังกฤษได้อายัดทรัพย์สินของ Chen Zhi และพวกพ้องในลอนดอน รวมกว่า 100 ล้านปอนด์
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตรมีความสามารถสูงขึ้นในการติดตามและยึดคริปโตที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามพรมแดน อย่างเป็นระบบ ส่วนไทยเอง ผมก็ได้แต่เฝ้ารอความสามารถในลักษณะนี้
ผู้เขียน