ชื่นชมคนระแงะ! หญิงท้องเจ็บท้องขณะเกิดอุบัติเหตุรถชน ร่วมกันทำคลอดเด็กปลอดภัย

299

จยย.ชนกัน หญิงท้องแก่เจ็บท้องพอดี ชาวระแงะ รุมช่วยกันทำคลอดบนถนน จนปลอดภัย

วันที่ 19 กรกฎาคม 2560 ชาวโซเซียลได้แพร่ภาพวีดีโอของชาวบ้านคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านบาโงระนะ ม.5 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้บันทึกไว้ในช่วงเวลา 14.30 น.วันที่ 19 ก.ค. 60 ที่มีชาวบ้านทั้งชายและหญิง จำนวนหนึ่ง ได้ช่วยกันทำคลอด นางพาตีเมาะ มะเซ้ง อายุ 27 ปี ชาว ม.5 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่ได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันบนถนนหน้ามัสยิดบาโงระนะ ทำให้นางพาตีเมาะ ซึ่งท้องแก่นอนร้องครวญครางอยู่ริมถนน โดยได้นั่งรถจักรยายนต์มากับสามีและลูกเล็กอีก 2 คน เพื่อเดินทางมาทำธุระในพื้นที่

เมื่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกดังกล่าวได้พบเห็น จึงได้ตะโกนให้ช่วยกันออกมาจากบ้านช่วยชีวิตหญิงท้องแก่ใกล้คลอดคนดังกล่าว ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจึงได้กันพื้นที่ห้ามยานพาหนะทุกชนิดแล่นผ่าน ในขณะที่ชาวบ้านได้ช่วยกันทำคลอดหญิงท้องแก่ริมถนน จนเวลาผ่านพ้นไปประมาณ 20 นาที ชาวบ้านจึงสามารถทำคลอดหญิงท้องแก่เอาไว้ได้สำเร็จ โดยหญิงท้องแก่และลูกน้อยที่คลอดออกมาเป็นผู้หญิงน้ำหนัก 2,805กรัม

และเมื่อผู้สื่อข่าวพบเห็นคลิปดังกล่าวมีหญิงวัยประมาณ 40 ปี ซึ่งสวมเสื้อยืดสีขาวและนุ่งผ้าถุงสีลายออกเขียว ที่เป็นผู้ทำคลอดหญิงท้องแก่ จึงได้พยายามติดต่อผู้หญิงคนดังกล่าว และทราบในเวลาต่อมา คือ นางรินดา ฮาแวมาเนาะ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ แผนกห้องคลอดโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และได้ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ทราบว่า ในขณะที่เลี้ยงลูกน้อย 2 คน ในบ้านพักตรงข้ามจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงคล้ายรถจักรยานยนต์ชนกันที่หน้าบ้าน และชาวบ้านที่พบเห็นได้ตะโกนเรียกตน ตนจึงตัดสินใจทิ้งลูกน้อย 2 คนในบ้านพักตามลำพัง และได้รีบวิ่งไปยังที่หญิงท้องแก่ ซึ่งอยู่ในสภาพเจ็บท้องใกล้คลอด ตนจึงได้ร่วมกับชาวบ้านทำคลอดหญิงท้องแก่รายนั้น จนออกมาได้สำเร็จแล้วรีบวิ่งอุ้มเด็กที่คลอดออกมากลับเข้าบ้าน เพื่อทำความสะอาดเด็กก่อนที่จะนั่งอุ้มเด็กไปกับรถกู้ชีพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.บาโงระนะ นำส่งโรงพยาบาลยี่งอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และตนได้รีบอุ้มเด็กนำเข้าห้องคลอดทำการตัดสายสะดือ เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นจึงได้รีบนั่งรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่เดินทางมาสังเกตการณ์ที่โรงพยาบาลยี่งอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานตามปกติที่ห้องคลอดของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ แต่วันนี้มาทำงานสาย เพราะต้องเดินทางจากบ้าน 30 กิโลเมตร แต่ภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือหญิงท้องแก่ในครั้งนี้