ธัมมชโย…นักธุรกิจในคราบผ้าเหลือง ที่ประสพความสำเร็จที่สุดในประเทศไทย

1125

นายไชยบูลย์ สิทธิผล อดีตนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยย่านบางเขน ผู้พลิกผันชีวิตตัวเองมาหากิน
ในคราบผ้าเหลือง ตั้งแต่ ปี 2512 อาศัยว่ามีความสนใจในพุทธศาสนาและได้พบครูดังอย่างหลวงพ่อสด และ มีแม่ชีจันทร์เป็นใบเบิกทาง

ธัมมชโย อาศัยวิชาของหลวงพ่อสด สร้างลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพศรัทธาแบบงมงายขึ้นมาจำนวนมาก จากนั้นก็ค่อยๆสร้างวัตถุมงคลต่างๆออกมาหลอกขายด้วยราคาแพงลิบลิ่ว บรรดาคนที่กำลังคลั่งไคล้ในคำสอนตามแนวทางของหลวงพ่อสด ต่างก็พากันทุ่มเงินมาให้แบบหมดเนื้อหมดตัวจนในที่สุดลัทธิธรรมกายก็มีเงินทุนมหาศาล
ออกไปซื้อที่ดินตั้งวัดธรรมกายขึ้นที่ปทุมธานี

บริษัท “ธรรมกาย” ที่เรียกตัวเองว่าวัด มี CEO. คือ นายไชยบูลย์ สิทธิผล
หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนามของ ธัมมชโย มีการแต่งกาย “คล้ายๆ” พระสงฆ์
มีคำสอน ที่ผิดเพี้ยน ไปจากพระธรรมคำสอน ของพระพุทธองค์มากมาย
แต่ก็ยังสามารถสร้างสาวกที่โง่งมงายขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง
โดยอาศัยจุดอ่อนในใจคน คือ ความบ้าบุญ ความอยากรวย ความกลัวนรก
ความปรารถนาจะไปสวรรค์ ครอบงำความคิดให้ยินยอมควักกระเป๋า
แบบสิ้นเนื้อประดาตัว ยอมแม้กระทั่งกู้หนี้ยืมสินเพื่อเอามาทำบุญ
ให้กับบริษัทธรรมกาย

อาณาจักรของบริษัทธรรมกาย ตั้งอยู่บนคลองสาม อ.คลองหลวง จ. ปทุมธานี
ใหญ่โตมโฬาร บนเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ จุคนได้จำนวนถึง 1 ล้านคน
ได้มาด้วยการใช้กำลังข่มเหงรังแก แม้แต่ผู้บริจาคที่ดินรายแรกยังโดน
หลอกลวง จนต้องถอนต้วออกไป
ตลอดระยะเวลา 46 ปี ตั้งแต่ ก่อตั้งขึ้นประสบความสำเร็จอย่างสูง
ด้วยกลยุทธ์การตลาด ซึ่งเป็นพุทธพาณิชย์อันรุนแรง มีเครื่องมือทั้งการโฆษณา
การประชาสัมพันธ์ และโดยเฉพาะการจัดกิจกรรม ทางการตลาด
อย่างต่อเนื่อง และยังได้แผ่ขยายลัทธิ กระจายสาขาอยู่ในต่างประเทศ
มากกว่า 40 สาขาด้วยกัน ทุกภูมิภาคของโลก ตั้งแต่อเมริกา แคนาดา แอฟริกา
ยุโรป เอเชีย ตอ.กลาง และ โอเชียเนีย เผยแผ่คำสอน
อันโกหกบิดเบือนอวดอุตริมนุสธรรม ทำให้พุทธศาสนามัวหมองอย่างที่สุด

การตลาด เป็นหัวใจสำคัญ ที่ใช้เผยแผ่ชื่อเสียง และคำสอนที่บิดเบือน
พระธรรมวินัย ให้ปรากฏไปอย่างกว้างขวาง เพื่อหวังยอดเงินบริจาค
จำนวนมาก เรียกคนเข้าลัทธิ ใครหลงเข้าไป ทำบุญกันหมดเนื้อหมดตัว
ต้องขายบ้าน ขายโน่น ขายนี่มาทำบุญ สินค้าหลักที่ขายคือ “สมาธิ”
ในลักษณะสะกดจิต สร้างกระบวนการจดจำ ในกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างอลังการ
มีการสวมใส่จีวรที่ทางบริษัทกำหนด เป็นสีเดียวกันทั้งหมด เดินถือกลด
พร้อมมีรถเคลื่อนตามข้างๆ เพื่อให้ภาพ ออกมาดูสวยงาม มีโครงการ
อุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน 100,000 รูป ,โครงการตักบาตรพระ 2,000,000 รูป 77 จังหวัดทุกวัดทั่วไทย ,โครงการปฏิบัติธรรม Peace Revolution ,โครงการสร้างโลกสวยสดใส ด้วยสันติสุข ภายใน 24 ชม. ,โครงการร่วมสถาปนา อาคารบุญรักษา มหากุศลครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งอาคารนี้จะใช้ดูแลรักษาแลฟื้นฟูสุขภาพ พระภิกษุสงฆ์ สามเณร
แบบครบวงจร รวมไปถึง รับสมัครบวชพระ ฯลฯ
มีการใช้สื่อที่เป็นเครื่องมือ ที่ครบทุกประเภท สำหรับการทำการตลาด
อาทิ สื่อเว็บไซต์ แฟนเพจ วิทยุ ยูทิวบ์ สื่อทีวีดาวเทียมช่อง DMC
ละครฟื้นฟูศีลธรรมโลก, วารสาร SMS ซีดี ใบปลิว ฯ
วิธีการตลาดถูกนำมาใช้ ในการ “สร้างบุญให้เป็นสินค้า” ซื้อสวรรค์ 7 ชั้น
ซื้อเครื่องประดับหลังตาย สร้างทีมขายแบบลูกโซ่ โดยใช้ “ลูกแก้ว ”
ของหลวงพ่อสดเป็นเครื่องหมายการค้า ,ใช้ Lights and Sounds ดึงดูดลูกค้า
สร้างความน่าเชื่อถือ โหมโฆษณาอย่างหนัก
สิ่งที่ธรรมกายทำ คือ ต้องทำ”บุญ” ให้เป็นสินค้าให้ได้ และยุทธศาสตร์
ที่สำคัญก็คือแผนการตลาด อำนวยสะดวกเพื่อทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้า หรือ
เข้าถึงบุญ ได้อย่างรวดเร็ว คือ รถบริการรับส่ง มีแผนกต้อนรับ มีเต้นท์ขายอุปกรณ์
เพื่อทำบุญทุกอย่าง แม้กระทั่งชุดขาว สำหรับผู้เพิ่งมาวัดเป็นครั้งแรก
สาวก จะมาในทุกต้นเดือน ซึ่งก็จะมีการทำบุญถวายข้าวพระ จากนั้นก็เป็นการถวาย
สังฆทาน ที่กำหนดชุดละ 100 บาท มีการนั่งสมาธิ มีการเทศน์ให้ฟังตามหลักคำสอนเฉพาะ เสร็จจากนั้น มีการให้บริจาคเงิน แก่กองทุน อาทิ กองทุนบูชาข้าวพระ กองทุนยารักษาโรค กองทุนหนังสือธรรมะเพื่อประชาชน กองทุนผ้าไตรจีวร กองทุนบวชพระภิกษุ สามเณร ฯ โดยที่ไม่สามารถ ตรวจสอบเงินบริจาค ได้เลย รวมไปถึงการให้กัลยาณมิตรออกเรี่ยไรเงิน โดยจะให้คนที่มาทำบุญ ตระเวนบอกบุญตามชุมชน และหมู่บ้าน ด้วยวิธีการเคาะประตู และแจกใบปลิว เช่น ใบปลิวโครงการอุปสมบทหมู่ ภาคฤดูร้อน 100,000 รูป ใบปลิวโครงการตักบาตรพระ 2,000,000 รูป 77 จังหวัด
การบริจาคจัดกฐินและผ้าป่าสามัคคี ทุกวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา
ล่าสุด ผุดแคมเปญเรียกคนเข้าวัด ปลุกกระแสชาวพุทธในยุคโซเชียล “แชร์ธรรมะ รับพระทองคำ” เข้าข่ายพนัน สร้างมิจฉาทิฏฐิ
เชื่อกันว่า บริษัทธรรมกายในปัจจุบัน มีทรัพย์สินรวมกันไม่น้อยกว่าสามล้านล้านบาท
เงินที่หลั่งไหลมาจากการทำบุญเพื่อหวังรวย หวังไปสวรรค์ ถูกผ่องถ่าย
ออกไปสู่บริษัทภายนอกที่นายไชยบูลย์ ให้คนสนิทออกไปก่อตั้ง
แล้วฟอกเงินจากเงินทำบุญของวัดให้กลายเป็นเงินของตัวเองโดยชอบธรรม