บิ๊กฉัตร” เดินหน้าขับเคลื่อน “9101 ตามรอยเท้าพ่อ ใต้ร่มพระบารมี” กระจายงบ 2.2 หมื่นล้านสู่ชุมชน หวังพลิกโฉมเกษตรไทยในทุกมิติ คาดเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 7.78 ล้านราย

93

“บิ๊กฉัตร” เดินหน้าขับเคลื่อน “9101 ตามรอยเท้าพ่อ ใต้ร่มพระบารมี” กระจายงบ 2.2 หมื่นล้านสู่ชุมชน หวังพลิกโฉมเกษตรไทยในทุกมิติ คาดเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 7.78 ล้านราย

ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2560 เห็นชอบ“โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ วงเงิน 22,800 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาเกษตรกร 9,101 ชุมชนๆ ละ 2.5 ล้านบาท

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตกรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติแก่ผู้บริหารระดับสูง และข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯเพื่อให้ขับเคลื่อนโครงการ9101ฯ ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้สำเร็จ โดยมีลักษณ์เป็น “สายโซ่” เชื่อมโยงทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทุกมิติ ซึ่งโครงการ ประกอบด้วย ด้านการผลิตพืช ด้านการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ด้านการจัดการศัตรูพืช ด้านฟาร์มชุมชน ด้านการผลิตอาหาร และการแปรรูปการผลิต ด้านปศุสัตว์ (ขนาดเล็ก) และการประมง ที่สำคัญจะต้องเป็นการจ้างแรงงานในท้องถิ่นร้อยละ 50 โดยชุมชนจะคัดเลือก และรับรองกันเอง

“การปฏิรูปภาคการเกษตรกรไทยภายใต้แนวคิด ไทยแลนด์ 4.0 จะต้องนำนวัตกรรมแบบอัฉริยะมาใช้ ตั้งแต่การผลิต แปรรูป และการตลาด นั้นหมายถึงเราจะต้องดูแลพี่น้องเกษตกรกรตั้งแต่การลดความเสียหายจากภัยพิบัติ เช่น ปัญหาท่วมท่วม ภัยแล้ง หรือแม้แต่การป้องกันความเสียหายจากการแพร่ระบาดของศัตรูพืชหนอนหรือแมลงต่างๆ เรียกว่าต้องดูแลกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำเลยทีเดียว “พล.ฺฉัตรชัย กล่าว
พล.อ.ฉัตรชัย เห็นว่าปัญหาของพี่น้องเกษตรกรต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที แม้ว่าหลายเรื่องถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การแพร่ระบาดของศัตรูพืช และโรคระบาดในสัตว์เลี้ยง ซึ่งแต่ละปีเกิดความเสียหายที่เปีเป็นเงินจำนวนมหาศาล จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ความสำคัญกับเรื่องนี้ เมื่อมีปัญหาต้องลงพื้นที่อย่างทันท่วงที่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถป้องกันปัญหาต่างๆได้

“ปีที่ผ่านมา มีหลายประเทศให้ความเชื่อมั่นนำเข้าเนื้อไก่สด และไข่ไก่จากประเทศไทยมากขึ้น โดยประเทศจีนได้ขอเข้ามาชมการผลิตของประเทศไทย และได้กล่าวชื่นชมกระบวนการผลิตของไทยที่มีมาตรฐานสูง อยากจะนำเข้าสินค้าเกษตรเป็นจำนวนมาก” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ยังกล่าวถึงการเข้ามาแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในไทย ซึ่งอียูเข้ามาตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่กรมประมง กรมเจ้าท่า และ หน่วยอื่นๆ ได้ทำงานหนักมา กว่า 2 ปี เพื่อยกมาตรฐานการทำประมงให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ ทั้งการดูแลสัตว์น้ำให้มีปริมาณที่เหมาะสม และดูแลแรงงานประมงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาหมักหมมมาอย่างยาวนานรัฐบาลชุดนี้ได้ออกกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวเพื่อทำให้อุตสาหกรรมประมงไทย โดยเฉพาะชาวประมงเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ปัญหาที่ทำกิน ส.ป.ก. มีการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ยึดคืน เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ พร้อมหน่วยทหารข่างเข้าไปเร่งพัฒนาพื้นที่ให้มีความพร้อม หน่วยอื่นๆ เช่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมพัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร และ อื่นๆ ลงพื้นที่เตรียมการเสริมสร้างอาชีพให้เกษตรกรมีความพร้อม
ขณะเดียวกันยังได้จัดทำกฎกระทรวงรองรับการอนุญาตใช้ที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานก็ทำงานกันทั้งวันทั้งคืนให้เสร็จทัน 3 เดือน อันนี้ เป็นเรื่องในอดีตที่รัฐบาลนี้มาแก้ไข เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ สำหรับนโยบายข้าว การติดตามข้าวที่ประมูลออกจากคลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามดูตลอดเวลา ไม่ให้ข้าววนกลับมาใช้บริโภคสำหรับคนอีก ทำให้ราคาข้าวดีขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมาก พร้อมกับการวางรากฐาน คือ ข้าวแปลงใหญ่ ข้าวอินทรีย์ และ เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพที่ดี เจ้าหน้าทำแคมเปญส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าใจ ที่ผ่านมามีเกษตรกรให้ความสนใจสมัครร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ซึ่งการรวมกลุ่มจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและทำให้ข้าวมีราคาที่ดีขึ้น ที่สำคัญ คือการตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรต่างๆ ในส่วนแปลงใหญ่ มาตรฐาน GAP

สำหรับ “โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี” มีที่มาจาก 9 หมายถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช (ร.9), เลข 10 หมายถึง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ร.10) และ 1 หมายถึงปีที่ 1 ในรัชกาลปัจจุบัน” ซึ่งจะเป็นการปฏิรูปโฉมหน้าเกษตกรไทยยุคไทยแลนด์ 4.0 เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน”โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ นำทัพ ซึ่งมีการประมาณการณ์ว่า โครงการดังกล่าวจะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 7.78 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยถึง 4 ล้านราย