สำนักข่าวอิศรา รายงาน กรณีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมเชิงชู้สาวของข้าราชการระดับสูงในศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เดินมาถึงจุดสำคัญ หลังจากมีหนังสือชี้แจงผู้บังคับบัญชาของข้าราชการระดับสูง 1 ใน 3 คนที่โดนกล่าวหาในหนังสือร้องเรียนไปแล้ว ซึ่งได้ยืนยันว่าข้อกล่าวหาทุกข้อไม่มีมูล
ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมหมาหยอกไก่, ข่มขู่บังคับมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับลูกน้อง รวมไปถึงการเอาลูกน้องเป็นภรรยาน้อย และการบังคับให้ข้าราชการมุสลิมดื่มของมึนเมา ระหว่างการประชุมนอกสถานที่ เรียกว่าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยังอ้างว่ามีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเป็นการภายในแล้ว สรุปว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล และหนังสือร้องเรียนเป็นแค่ “บัตรสนเท่ห์”
แต่ล่าสุด “ทีมข่าวอิศรา” ได้รับเอกสารฉบับใหม่เป็น “ผลการตรวจสอบกรณีร้องเรียนข้าราชการระดับสูงใน ศอ.บต.” ซึ่งดำเนินการสอบสวนโดยหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงมหาดไทย
ผลการตรวจสอบโดยสรุปก็คือ “ข้อกล่าวหามีมูลบางส่วน” โดยส่วนที่มีมูล ได้แก่ พฤติกรรมของข้าราชการระดับสูงที่ไปประชุมนอกสถานที่ และบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นมุสลิมนั่งดื่มของมึนเมาเป็นเพื่อน รวมทั้งให้เสิร์ฟของมึนเมา ข้อกล่าวหานี้มีพยานยืนยันว่าเป็นความจริง
ส่วนข้อกล่าวหาการบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นผู้หญิงไปพบที่ห้องพักหลังงานเลี้ยงนั้น เป็นเพียงการพูดกันปากต่อปาก แต่ไม่มีพยานยืนยัน
นอกจากนั้น ผลการตรวจสอบของหน่วยงานในกระทรวงมหาดไทย ยังระบุถึงพฤติกรรมของข้าราชการระดับสูงบางคนใน ศอ.บต. ในลักษณะของการช่วยเหลือสนับสนุนทั้งการเงินและตำแหน่งให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นผู้หญิงถึง 4 คนด้วย แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันเรื่องชู้สาว
แต่ผลการตรวจสอบฯ ก็ตั้งข้อสังเกตว่า หลายเรื่องที่อ้างถึงในหนังสือร้องเรียน ไม่มีมูลความจริง จึงมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้จัดทำหนังสือร้องเรียนขึ้นมา เป็นกลุ่มลูกจ้างหญิงที่เสียประโยชน์จากการสอบบรรจุเป็นพนักงานราชการของ ศอ.บต. และมีข้าราชการระดับสูงบางคนหนุนหลังให้ทำ เพราะต้องการเตะตัดขาอีกฝ่ายไม่ให้มีความก้าวหน้าในอาชีพราชการ
ในช่วงท้ายของผลการตรวจสอบฯ ยังระบุถึงพฤติกรรมของข้าราชการชายบางคนใน ศอ.บต. ที่มีลักษณะ “หมาหยอกไก่” และ “แทะโลม” ลูกน้องที่เป็นผู้หญิงจริง แต่ปัจจุบันข้าราชการรายนี้ได้ย้ายออกจาก ศอ.บต.ไปแล้ว
สำหรับผลการตรวจสอบฯฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำสั่งของรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตามการเสนอของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน