เปิดบูม “ดูนเลาะ แวมะนอ”ผู้นำBRN จอมโหดค่าหัว 1 ล้าน ผู้นำก่อความรุนแรงโดยไม่เลือกเป้าหมาย

1856

เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงออกมายอมรับว่ามีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายใน ขบวนการ บีอาร์เอ็น มาอยู่ภายใต้การนำของปีกทหารอย่าง “ดุนเลาะ แวะมะนอ” โดยพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ความรุนแรง ใช้วิธีวางระเบิดในแหล่งชุมชนแบบตรงๆโดยมีลูกล่อลูกชนให้ประชาชนออกมา ถือว่า เป็นเหตุการณ์ที่โหดร้าย

“ที่ผ่านมาผู้นำบีอาร์เอ็นคนก่อน คือนายสะแปอิง บาซอได้เลิกทำเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไปแล้วแต่ผู้นำคนใหม่คือ นายดูนเลาะ แวมะนอ กลับมาทำเรื่องนี้ ผมรับไม่ได้” ผบ.ทบ.กล่าว  พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนรูปแบบและวิธีการ จากที่เคยคิดว่าฝ่ายต้องข้ามจะเข้ามาพูดคุย หยุดปฏิบัติการทางทหาร หรือดำเนินการเฉพาะคู่กรณีคือเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น

ผบ.ทบ.เรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุ และต้องช่วยเป็นหูเป็นตา รวมทั้งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ

“ในสมัยก่อนเคยมีการพูดคุยกัน และเขายอมรับว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ทำ และที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้ทำหรือทำน้อยที่สุด แต่การกลับมาก่อเหตุในลักษณะนี้ ผมคิดว่าเลวสุดๆ” ผบ.ทบ.กล่าว และเรียกร้องประชาชนร่วมประณามผู้ก่อเหตุไม่สงบ

โครงสร้างภายในของขบวนการบีอาร์เอ็น ได้เปลี่ยนไปหลังการเสียชีวิตของสะแปอิง บอซอ โดยนายดูนเลาะ เข้ามาเป็นผู้นำแทน จากเอกสารของฝ่ายความมั่นคงไทยที่หลุดออกมาช่วงเดือน มี.ค. 2560 ระบุว่าที่ประชุมสภาซูรอ หรือสภาสูงสุด เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ซึ่งประกอบด้วย แกนนำของบีอาร์เอ็น 3 กลุ่มย่อยคือ บีอาร์เอ็น อูลามา (ฝ่ายจิตวิญญาณ) บีอาร์เอ็น คองเกรส และบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต มีมติเป็นเอกฉันท์แต่งตั้งให้นายดูนเลาะ เลขาธิการสภาองค์กรนำ หรือดีพีพี ขึ้นเป็นประธาน แทนนายสะแปอิง

นายอับดุลเลาะห์ วันมะนอ หรือ ดูนเลาะ แวมะนอ หรือ เป๊าะซูเลาะเป็นอดีตครูใหญ่โรงเรียนญีฮาดวิทยา หรือ “ปอเนาะญีฮาด” อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ก่อนกลายเป็นผู้ต้องหาคดี ก่อการร้ายและกบฏแบ่งแยกดินแดน จากเหตุปล้นปืนเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 เมื่อแนวร่วมก่อความไม่สงบให้การรับสารภาพว่า ไปฝึกอาวุธที่โรงเรียนของเขา ทำให้นายดูนเลาะ ต้องหลบหนีไปต่างประเทศ แม้ถูกมองว่าเป็น “ผู้นำบีอาร์เอ็นในปีกทหาร” ซึ่งเป็นที่เคารพของบรรดานักรบติดอาวุธที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ แต่ก็เคยร่วมโต๊ะพูดคุยสันติสุขกับรัฐไทย ทั้งในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายดูนเลาะ เป็นอดีตครูใหญ่โรงเรียนญีฮาดวิทยา หรือ “ปอเนาะญีฮาด” อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี -2547 ตกเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีกบฏ อั้งยี่ ด้วยข้อกล่าวหาให้ใช้โรงเรียนเป็นสถานที่ฝึกกองกำลังติดอาวุธของบีอาร์เอ็น ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุปล้นปืน 413 กระบอก เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 -15 ธ.ค. 2558 ศาลแพ่งพิพากษาสั่งริบทรัพย์ คือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 699 หมู่ 4 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เนื้อที่ 14 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ราคาประเมิน 591,090 บาทอันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนญีฮาดวิทยา ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่สนับสนุนการก่อการร้าย(คดีสิ้นสุดลงเดือน ก.พ.2559 เนื่องจากครอบครัวของนายดูนเลาะไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาล)

เดือนก.ย.2559 มีรายงานว่านยดูนเลาะ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการของดีพีพี โดยมีนายสะแปอิงเป็นประธาน จน 17 ม.ค.2560 สภาซูรอมีมติเลือกให้เป็นประธานบีอาร์เอ็นคนใหม่ แทนนายสะแปอิงที่เสียชีวิต หลังจากนั้น มี.ค.2560 มีภาพ “ประกาศจับตาย” ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายและกบฏแบ่งแยกดินแดน 6 คน ส่งต่อกันทางสื่อสังคมออนไลน์ ในจำนวนนี้มีนายดูนเลาะถูกตั้งรางวัลนำจับ 1 ล้านบาท แต่ กอ.รมน.ภาค 4 ออกมาปฏิเสธข่าวนี้