ทุกฝ่ายประสานเสียงขับเคลื่อนแนวทางสันติตามหลักศาสนา เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลายแบบพหุสังคม 

62
ในงานวันแด่มุสลิมอีสาน ทุกฝ่ายประสานเสียงขับเคลื่อนแนวทางสันติตามหลักศาสนา เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลายแบบพหุสังคม 

นาซิเราะห์ ฮูเซ็น เอกอัคราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย บรรยายพิเศษในวันแด่มุสลิมอีสาน ระบุว่า การจัดงานวันแด่มุสลิมอีสาน ไม่ใช่เพียงการพบปะสร้างความเข้าใจกันระหว่างชาวพุทธกับมุสลิม แต่เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์กันระหว่างประเทศ

“ดิฉันมาจากมาเลเซียและอาจจะมีพี่น้องจากสปป.ลาวมาร่วมงาน ถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนด้วยกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ยกตัวอย่างมาเลเซีย เป็นตัวอย่างความหลากหลายของชาติพันธ์ุ ศาสนา แต่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และเป็นคำตอบว่า ถ้าเรารวมกันเราจะแข็งแกร่ง

ถ้าเราแตกแยกกันเราก็อ่อนแอ ในมาเลเซียมีกว่า 200 ชาติพันธุ์ มีจีน อินเดีย มลายู และชาติพันธุ์อื่นๆ มีชนเผ่า แต่ความหลากหลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาประเทศ เป็นส่วนสำคัญที่ต้องรักษาไว้ น้ำที่มารวมตัวกันจากการไหลลงมารวมกัน แต่คนจะรวมตัวกันได้มากจากความร่วมมือกัน ในทุกสังคมจึงจะต้องให้เกิดความร่วมมือระหว่างทุกฝ่ายต่อไป และคาดหวังว่า งานลักษณะอย่างนี้จะดำเนินต่อไป” เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยกล่าว

ท่านทูตกล่าวว่า การให้ความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องทำงานหนัก ในเรื่องความรู้ให้มีการศึกษาที่สูง มีอาชีพที่ดีและงดงามทางความคิดเคียงคู่กับการมีอิหม่ามที่สมบูรณ์และคิดว่า เราน่าจะมีการจัดตั้งกองทุนดำเนินการในเรื่องของการศึกษา หากเรามีความสามารถตั้งกองทุน การศึกษาให้มีการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้ประโยชน์ต่อไป วันนี้นับเป็นวันที่สวยงามมาก

ในขณะที่ ดร.อิสมาแอล ลุตฟี่ จะปะกียา อธิการดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ในฐานะประธาน ร่วมสภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษ ระบุว่าจาก 3 จังหวัดภาคใต้ มาอีสานเพื่อมาร่วมมือสร้างความเข้าใจระหว่างกัน ในฐานะเป็นคนไทยด้วยกัน

“ผมเป็นประธานร่วมสภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ดูแล 4-5 ศาสนา พุทธ คริสต์ 2 นิกาย พราห์ม ฮินดู ซิกซ์ มารวมตัวกัน เพื่อทำหน้าที่ปรับความเข้าใจกัน และได้เข้าใจซึ่งกันและกันอย่างดี เคารพกันและกัน อย่างมีเกียรติ สภาศาสนาสัมพันธ์ฯ ยังทำความเข้าใจในต่างประเทศด้วย” ดร.อิสมาแอล กล่าว

ดร.อิสมาแอล กล่าวว่า อิสลามเป็นศาสนาที่ถูกกำหนดให้นำคำสอนของอัลเลาะอ์มาบอกแก่ชาวโลก โดยศาสนทูต ตามแนวทางแห่งสันติ ไม่ใช่ศาสนาตามแนวทางที่คนเข้าใจผิด เพราะฉะนั้นการจะเข้าใจอิสลามอย่าไปฟังคนใดคนหนึ่งหรือดูการกระทำของคนใดคนหนึ่งที่ทำผิด มาให้เป็นความผิดของศาสนา

“ในสภาศาสนสัมพันธ์ฯ ศาสนาทุกศาสนา ยอมรับว่ามนุษย์บนโลกนี้มาจากคนเดียวคือ มาจากอาดัม และต่อมามีฮาวา อัลเลาะฮ์ส่งทั้ง 2 คนมายังโลกและส่งวิถีชีวิตมาด้วย วิถีชีวิตคือศาสนา ในอิสลามมีคำตอบทุกอย่างชัดเจนว่า มาจากไหน มาทำอะไร และจะไปไหน สามารถอธิบายได้ทุกอย่าง และไม่มีการบังคับกันในการนับถือศาสนาในอิสลาม อัลเลาะฮ์ส่งเรามายังโลก ส่งปัจจัยยังชีพมาให้ และส่งวิถีชีวิตมาให้ด้วย บางคนมีชีวิต มีปัจจัยยังชีพ แตไม่ได้รับวิถีการดำเนินชีวิต และเมื่อให้ชีวิตมาแล้วก็ห้ามปฏิเสธชีวิต ห้ามปฏิเสธปัจจัยยังชีพ เพราะมาจากอัลเลาะฮ์ แต่ให้เลือกที่ฮาลาล” ดร.อิสมาแอล กล่าว

ประธานสภาศาสนสัมพันธ์ฯ กล่าวว่า เมื่อทุกคนเป็นลูกหลานอาดัม ซึ่งเป็นศาสนทูตคนแรก เราทุกคนบนโลกนี้จึงเป็นพี่น้องกันในฐานะลูกหลานอาดัม ไม่ใช่เป็นคนธรรมดาแต่เป็นเชื้อสาย ศาสนทูต และทุกคนก็มาอยู่รวมกันและอิสลามสอนให้ทำความรู้จักกัน

สร้างความรู้จักระหว่างกัน ไม่ใช่สร้างศัตรูกัน เพราะทุกคนเป็นพี่น้องกัน

“ศาสนาของเราทุกคนต้องเข้าใจศาสนาอย่างถ่องแท้ ไม่ใช่เข้าใจไม่ถูกต้อง ศาสนาได้กำหนดให้ทำดีกับชาวโลกทั้งปวง ไม่เพียงแต่มนุษย์แต่กับสัตว์ต่างๆ ด้วย มีคนๆ หนึ่งที่ชั่วร้ายมาก แต่เขาให้สุนัขดื่มน้ำ เห็นสุนัขกระหายน้ำ เขาไปหาน้ำมาให้เขาได้รับเข้าสวรรค์ เพราะทำในสิ่งที่อิสลามสอน คือการนำความเมตตาสู่ทุกสิ่งมีชีวิตในโลก คนที่เข้าใจคลาดเคลื่อนก็ต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ศาสนาอิสลาม บอกให้ทำดีกับทุกสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ จึงต้องบอกเล่าศาสนาอิสามให้เข้าใจอย่างเป็นจริง ไม่ใช่เข้าใจอย่างคนอื่นมาบอก อย่ารับรู้อิสลามจากศาสนิกอื่นเพราะเขาอาจไม่รู้ที่แท้จริงจะต้องรับรู้จากมุสลิมที่ไว้ใจได้ ถ้าเราไม่เข้าใจก็จะนำไปสู่ความเสียหาย” ดร.อิสมาแอล กล่าวและว่า

อีสานกับอิสลามมีความใกล้เคียงกัน ขาดอักษรบางตัว บางทีเราเข้าร้านอาหารอีสาน คิดว่า เป็นอิสลาม บางทีอีสาน อาจจะมาจากคำว่า เอียะซาน คือ ทำดี ภาคอีสานเป็นภาคที่มีอารยธรรม มีวัฒนธรรม และคิดว่า ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันในการขับเคลื่อนตามแนวทางสันติ ส่วนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภาและรัฐมนตรีหลายกระทรวง กล่าวว่า สังคมทุกวันนี้ในหลายพื้นที่เกิดสงคราม คนหลายคนไม่มีข้าวจะกิน ต้องอพยพนับล้านๆ จากการกระทำของมนุษย์ด้วยกัน เพราะอำนาจ หรือมาจากคนที่ต้องการขายอาวุธ มาจากหลายปัจจัย ซึ่งมีความซับซ้อน

“สิ่งเกิดขึ้นโลกเรากำลังสับสนวุ่นวายสิ่งจะช่วยแก้ปัญหาคือ การให้การศึกษาตามแนวทาง ที่ถูกต้องตามหลักศาสนา ไม่มีอะไรที่จะแก้ปัญหาได้ นอกจากการสร้าวความเข้าใจกันการฆ่ามนุษ์ด้วยกัน ไม่ได้รับการให้อภัยจากพระผู้เป็นเจ้า นรกเป็นสิ่งตอบแทนสำหรับเขา เมื่อคนไม่ได้รับการศึกษาหรือมีการศึกษาที่บิดเบือน การศึกษาที่สุดโต่งจะสร้างปัญหาในสังคมโลก การศึกษาที่ถูกไม่บิดเบือน เป็นสิ่งจำเป็นในโลก ปัจจุบันการศึกษาคือรากฐานการเจริญเติบโต”

หมายเหตุ : จากนิตยสาร MTODAY ฉบับประจำเดือนเมษายน 2559