กลุ่มต้านมัสยิดบึงกาฬโห่ใส่ปลัดจังหวัด ไม่ระงับก่อสร้าง ระบุหวั่นถูกกลืนชาติพันธุ์

89
กลุ่มต้านสร้างมัสบิดบึงกาฬโห่ใส่ปลัดจังหวัด หลังระบุ ไม่สามารถชะลอสร้างมัสยิดเพราะขออนุญาตตามกฎหมาย เปิดรธน. ระบุ ทุกคนมีเสรีภาพนับถือศาสนา กลุ่มค้านอ้างจะทำงายชาติพันธุ์
วันที่ 21 ก.ย. 59  ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ มีการประชุมแก้ไขปัญหาการคัดค้านการก่อสร้างมัสยิดอัศศอบีรีน โดยมีนายมรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานการประชุม โดยการประชุมครั้งนี้มีกลุ่มคัดค้านการก่อสร้าง นำโดยนางนงษ์ลักษณ์ นียะนุช และประชาชนชาวปากคาดเข้าร่วมการประชุมกว่า 200 คน
 ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุมปลัดจังหวัดบึงกาฬได้กล่าวถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และรัฐมีหน้าที่อุปถัมป์พระพุทธศาสนารวมทั้งคุ้มครองศาสนาอื่นๆ” ซึ่งปัจจุบันมีศาสนาต่างๆ ในประเทศไทยหลายศาสนา เช่น ศาสนาคริสต์, ศาสนาอิสลาม, ศาสนาพราหม์-ฮินดู และซิกข์ ที่ผ่านมาทุกศาสนาก็อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขมาโดยตลอด
สำหรับปัญหาคัดค้านการก่อสร้างมัสยิดในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬนั้น ปัจจุบันประชาชนในพื้นที่เรียกร้องให้จัดทำประชาคม เป็นความเข้าใจที่ผิด โดยความจริงการทำประชาคมจะทำในเฉพาะกรณีก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม การทำเหมือง หรือดำเนินการต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน ส่วนการก่อสร้างศาสนสถานนั้นไม่ว่าศาสนาใดไม่มีข้อกำหนดในกฎหมายให้ทำประชาคม
ทั้งนี้ แกนนำกลุ่มพยายามขอร้องให้ส่วนราชการชะลอการก่อสร้างออกไปก่อน รวมทั้งขอให้รับฟังเสียงของประชาชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่บ้าง แต่ปลัดจังหวัดอ้างว่าไม่มีอำนาจที่จะไปสั่งให้ชะลอก่อสร้าง เนื่องจากมัสยิดอัศศอบิรีนดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจตะโกนโห่ร้องและลุกเดินออกจากห้องประชุม เป็นเหตุให้การประชุมต้องล้มเลิกไปในที่สุด
จากการสอบถามนางนงลักษณ์ นียะนุช แกนนำกลุ่มคัดค้านก่อสร้างมัสยิดให้สัมภาษณ์ว่า มัสยิดดังกล่าวก่อสร้างในเขตชุมชนซึ่งใกล้กับวัด และโรงเรียนอนุบาล โดยหากการก่อสร้างแล้วเสร็จอาจเกิดมลพิษทางเสียง รวมทั้งปัญหาการกลืนกินวัฒนธรรมและชาติพันธุ์