ระดม 100 ล้านปลุก “ปัตตานีจายา” ศูนย์กลางการศึกษาและธุรกิจ 3 จังหวัด

118

ปัตตานีจายา หรือชัยชนะแห่งปัตตานี เป็นโครงการหมี่นล้านบนพื้นที่ 1,121 ไร่ริมถนนปัตตานี-นราธิวาส ดำเนินการโดย บริษัท ปัตตานีจายาคอมเมอร์เชียล จำกัดประกอบด้วยโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย บ้านพักอาศัยและศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดของ 3 จังหวัด เนินการมาแล้ว 4-5 ปี มีความคืบหน้าระยะหนึ่ง ล่าสุดได้ดึงผู้มีชือเสียงมาร่วมบริหารโครงการ มีดร.วรวิทย์ บารู อดีตส.ว.ปัตตานี เป็นประธานกรรมการ อาจารย์ประเสริฐ มัสซารี ผู้ได้รับใบอนุญาตโรงเรียนสันติชน เป็นประธานที่ปรึกษา นายหะมะมุกตาร์ แลมัน ผู้ชำนาญด้านหมู่บ้านจัดสรรมาเป็นกรรมการผู้จัดการ

“โครงการนี้ ต้องการให้เป็นแลนด์มาร์คหรือสัญลักษณ์ของ 3 จังหวัดภาคใต้ เมื่อโครงการเสร็จแล้วเสร็จจะมีความสวยงาม และเป็นศูนย์กลางของมุสลิมในอาเซียน ถ้าเราดูในด้านภูมิศาสตร์ จากลาว-เมียนมา ไปจนถึงอินโดนีเชีย จะเห็นว่า พื้นที่จังหวัดปัตตานี เป็นจุดศูนย์กลาง เพราะฉะนั้นเราจะทำให้จุดนี้มีความสำคัญเหมือนในอดีตที่เราเคยเป็นศูนย์กลางการค้า การศึกษา” ดร.อิสมาแอล ลุตฟีจะปะกียะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนีเจ้าของโครงการ กล่าวถึงโครงการปัตตานีจายา

ดร.อิสมาแอล กล่าวว่า การดำเนินโครงการปัตตานีจายา ล่าสุดมีผู้ร่วมทุนจากปัตตานีมาถือหุ้น 49% ฝ่ายเราลงทุน 51ทำให้โครงการมีความมั่นคง สิ่งที่เราเน้นคือ ให้โครงการนี้เป็นของทุกคนให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของเพราะถือว่า เป็นหน้าตาของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทย

“เราต้องการให้โครงการเป็นเมืองมหาวิทยาลับที่โดดเด่น ส่วนใหญ่เป็นที่ดินวากั๊ฟ ที่ต้องการให้เป้นของส่วนรวม มีส่วนที่เป็นธุรกิจไม่ถึงครึ่งหนึ่ง จึงต้องการให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการ” ดร.อิสมาแอล กล่าว

อาจารย์ซะและ ตาเละ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษและการลงทุน  มหาวิทยาลัยฟาฏอนี

ด้านอาจารย์ซะและตาเละ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษและการลงทุน  มหาวิทยาลัยฟาฏอนี กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการว่า ปัตตานีจายา เราต้องการให้เมืองมหาวิทยาลัยหรือ Education City  มีโครงการที่เป็นโครงการเพื่อสาธารณะ หรือพื้เนที่วากั๊ฟประกอบด้วย โรงพยาบาล ซึ่งการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จแล้ว จะมีนายแพทย์จากชมรมแพทย์จันทร์เสี้ยวมาบริหารโครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างดารดำเนินการ  มหาวิทยาลัยซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งเราจะเปิดสาขาการแพทย์ ซ่างเป็นสาขาที่ขาดแคลน

“3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นศูนย์กลางของอาเซียน 10 ประเทศ เป็นพื้นที่ 2 วัฒนธรรมเพราะอยู่ติดขายแดนไทย-มาเลเซีย จึงมีความโดดเด่น เป็นจุดขายที่ดี” รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี กล่าว และว่า ส่วนพื้นที่ธุรกิจ มีจำนวน 267 ไร่ก็จะมีโครงการหมู่บ้านจัดสรร 7 โครงการ มี 3,000 ยูนิต และโครงการห้างสรรพสินค้า เป็นแหล่งระบายสินค้า แหล่งสร้างอาชีพให้กับพี่น้องในพื้นที่ ที่สำคัญเรายังจะดำเนินโครงการ Islamic Center เป็นศูนย์การเรียนรู้ของอิสลามที่เน้นเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งจะให้ต่างประเทศที่มีความเชี่ยาญมาร่วมดำเนินการซึ่งจะเป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยประมาณ 20,000 ตารางเมตร
“ที่ผ่านมาโครงการ ได้กู้ยืมเงินจากอิสลามแห่งประเทศไทยจำนวน 580 ล้านบาท และเป็นลูกค้าชั้นดีมาตลอด ตั้งแต่ต้นปีมาได้จ่ายคืนเงิน 100,000 บาทต่อเดือนและล่าสุดเดือนพฤศจิกายนจ่ายคืน 30 ล้านบาท รวมทั้งธนาคารได้อนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ 250 ล้านบาท” รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี กล่าว

ซึ่งในการแถลงข่าวที่ร้านอาหารโซเฟีย ได้มีตัวแทนจากธนาคารอิสลามฯยืนยันว่า ปัตตานีจายา ได้จ่ายคืนเงินครบถ้วนตามข้อตกลง

ดร.วรวิทย์ บารู ประธานคณะกรรมการบริษัท ปัตตานีจายาคอมเมอร์เชียล

ขณะที่ดร.วรวิทย์ บารู ประธานคณะกรรมการบริษัท ปัตตานีจายาคอมเมอร์เชียล จำกัด กล่าวว่า การก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นตามรูปแบบของมลายู มี 3 ห้องนอน ซึ่งเป็นไปตามหลักการอิสลามที่ระบุไว้ว่า เด็กชายหญิงเมื่อโตขึ้นให้แยกห้องนอน ซึ่งจะมีห้องนอนพ่อแม่ ห้องนอนลูกชายและห้องนอนลูกหญิง  ซึ่งเพื่อให้การดำเนินโครงการโครงการเป็นไปด้วยความมั่นคง และให้มุสลิมทุกคนได้มีส่วนร่วม จึงได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาเมืองธุรกิจมะดีนะตุสสลาม เพื่อบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เปิดให้ทุกคนเข้ามาถือหุ้น แบบมูรอบะฮะห์ ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุนที่ผู้ร่วมทุนไม่ต้องรับความเสี่ยง โดยเบื้องต้น ประมาณการว่า จะจ่ายส่วนแบ่ง 10%ต่อปื จ่ายคืนเงิน 6 เดือนครั้ง ระยะเวลาคืนเงิน 3 ปี หน่วยลงทุนละ  5,000 บาท โดยผู้ร่วมลงทุน 2 ล้านบาทขึ้นไปจะได้รับโฉนดที่ดินเป็นหลักประกัน

“กำไรทั้งหมดจะจัดสรรให้กับมหาวิทยาลัยฟาฏอนีหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ซึ่งผู้ซื้อจะได้ทั้งกำไรและผลบุญด้วย” ดร.วรวิทย์ กล่าวและว่า การดำเนินการของกองทุนยืนยันในความโปร่งใส โดยจีมการจัดตั้งกรรมการ 15 คน เพื่อจะได้ขอร่วมทุนจากกองทุนธนาคารอิสลามของธนาคารเกษตรและสหกรณ์

“โครงการบ้านจัดสรรมีจำนวน 7 โครงการ ประมาณ 3,000 ยูนิต โดยกำลังมีการก่อสร้างโครงการที่ 1 และ 7 การก่อสร้างบางส่วนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการโอน โดยพื้นที่ที่หมู่บ้านจัดสรร จะมีมัสยิด 7 หลัง หลังละ 7 ล้านบาท และมีหลังใหญ่ 1 หลัง ซึ่งตอนนี้การก่อสร้างมัสยิด มีผู้แสดงความจำนงที่จะก่อสร้างแล้ว

นายหะมะมุกตาร์ แลมัน กรรมการผู้จัดการบริษัท ปัตตานีจายาคอมเมอร์เชียลจำกัด

ส่วนนายหะมะมุกตาร์ แลมัน กรรมการผู้จัดการบริษัท ปัตตานีจายาคอมเมอร์เชียลจำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรประสบความสำเร็จหลายโครงการ การมาบริหารโครงการปัตตานีจายา ที่ผ่านมาดำเนินการอย่างเงียบๆ ใช้เครดิตส่วนตัวในการค้ำประกันโครงการ ผลกำไรจากการบริหารโครงการก็จะไม่รับจะมอบให้มหาวิทยาลัยฟาฏอนีใช้เพื่อสาธารณะ

“ที่ผ่านมา โครงการได้ก่อสร้างโดยไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์มากนัก มีผู้สนใจโครงการซื้อโครงการแล้วในโครงการที่ 1 มีการก่อสร้าง 20 หลังมีการจองหมดแล้ว อยู่ระหว่างการโอน เงินที่ได้จากการระดมทุน ส่วนหนึ่งจะทยอยไถ่ถอนที่ดินที่ติดอยู่กับธนาคารและเป็นทุนในการก่อสร้าง ซึ่งตอนนี้ โครงการได้รับการตอบรับดีมาก” เขา กล่าว

อาจารย์ประเสริฐ มัสซารี

ขณะที่อาจารย์ประเสริฐ มัสซารี กล่าวว่า เคยผิดหวังจากโครงการหนึ่งที่จังหวัดปัตตานี ตอนแรกคิดว่า จะไม่เข้าไปร่วมบริหาร แต่เมื่อได้ฟังอาจารย์อิสมาแอล แล้วตาโต เพราะมีเจตนาที่ยิ่งใกญ่ที่จะสร้างสังคมมุสลิม ให้เติบทางด้านเศรษฐกิจและการศึกษา ซึ่งจากการศึกษา เห็นว่า โครงการเป็นไปได้ ซึ่งจะใช้งบประมาณในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ไม่มากนัก อยากให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมุสลิม

สำหรับ “กองทุนพัฒนาเมืองธุรกิจมะดีนะตุสสลาม” เป็นกองทุนที่จะเข้าไปบริหารโครงการหมู้บ้านจัดสรร มีดร.วรวิทย์ บารู เป็นประธานกองทุน อ.ประเสริฐมัสซารี เป็นประธานที่ปรึกษากองทุน วิโรจน์ แสล่หมัด กรรมการ อิสมาแอลระนี กรรมการ หะมะมุกตาร์ แลมัน กรรมการผู้จัดการ

บรรยากาศการแถลงข่าว

ผู้มีเกียรติ ถ่ายร่วมกับผู้บริหารปัตตานี จายา