อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารมาเลย์ตำหนิกองทัพตนเองอย่างหนัก หลังตกลงปลงใจเข้าร่วมกับซาอุในยุทธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเยเมนที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้
ประธานสมาพันธ์ผู้รักชาติแห่งมาเลเซีย(NPA) Mohamed Arshad Raji ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของกองทัพมาเลย์ หลังอัล-จาซีร่ารายงานความคืบหน้ากองทัพมาเลย์เข้าร่วมรบเคียงข้างซาอุ
โดยถามว่ามาเลเซียเคยมีข้อตกลงกับซาอุเรื่องการส่งทหารไปยังซาอุหรือไม่ และใครคือผู้ช่วยเหลือด้านการเงินแก่กองทัพของเราที่อยู่ในซาอุ และหากมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
เขาระบุต่อว่า นับเป็นท่าทีที่โง่ของกองทัพมาเลย์ที่ได้เข้าไปพัวพันกับวังวนแห่งความขัดแย้งระหว่างซาอุและเยเมน ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะส่งทหารของเราไปเสี่ยงกับอะไรแบบนั้น
โดยย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมาองค์กรสหประชาชาติเคยระบุว่า มีทหารจากประเทศมาเลยเซีย ปฏิบัติการร่วมกับกองทัพซาอุในตะวันออกกลาง โดยเตือนว่าการรุกรานเยเมนโดยการนำของซาอุนั้นอาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียระบุ ทหารของเราที่อยู่ในซาอุไม่ได้มีหน้าที่รบกับกองทัพอันศอรุลลอฮ์แห่งเยเมน แต่ไปเพื่อหาประสบการณ์ โดยเฉพาะปฏิบัติการณ์เพื่อการอพยพและบรรเทาสาธารณะภัย โดยนาย Seri Hishammuddin รมต.กลาโหมมาเลย์ระบุ ภาวะผู้นำของซาอุได้มอบบทเรียนที่ล้ำค่าแก่กองทัพของเรา และผมไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร และนโยบายการคงทหารของเราไว้ในประเทศซาอุจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ทั้งนี้สำนักข่าวบางสำนักรายงานว่า ขณะนี้ทหารมาเลเซียปรากฎตัวอยู่บริเวณชายแดนซาอุ-เยเมน ซึ่งหน้าที่เดิมของกองทัพมาเลเซียจะต้องประจำอยู่กรุงริยาด!!!
http://www.presstv.com/Detail/2017/11/28/543746/Malaysia-Saudi-Arabia-Yemen-Mohamed-Arshad-Raji
