ประท้วงวุ่นวายทั่วสหรัฐฯ หลังคำสั่งมุสลิม 7 ชาติเข้าประเทศ ได้จับกุม 200 คน เนรเทศพ้นสหรัฐฯ

200

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้จับกุม คนเข้าเมืองประมาณ 200 คน หลังทรัมป์ มีคำสั่งห้ามพลเมือง 7 ประเทศเข้าสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการชุมนุมประท้วงในหลายสนามบินในสหรัฐฯ

เกิดเหตุประท้วงวุ่นวายในหลายสนามบินของสหรัฐฯ เพียง 1 สัปดาห์ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จากการเซ็นต์คำสั่งห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศ รวมทั้งผู้อพยพเข้าประเทศ ประกอบด้วย ซีเรีย อิรัค อิหร่าน โซมาเลีย ซูดาน เยเมน และลิเบีย ซึ่งตามคำสั่งดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ได้เข้าควบคุมพลเมืองของ 7 ชาติที่เดินทางเข้าสหรัฐฯเพื่อเนรเทศออกนอกประเทศ แม้ว่า จะได้รับวีซ่าหรือใบอนุญาต เข้าประเทศอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ศาลได้มีคำสั่งให้ผู้ที่ถูกควบคุมตัวได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ด้วยเหตุผลว่า หากมีการส่งตัวกลับอาจจะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย

คำสั่งห้ามพลเมือง 7 ประเทศดังกล่าวก่อให้เกิดปฏิกริยาจากชาวสหรัฐฯ ที่เห็นว่า เป็นคำสั่งที่ไม่สมควร และต้องการให้สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีเสรีภาพดังเดิม มีการประท้วงในหลสยสนามบินในสหรัฐฯ ผู้นำการชุมนุมมีทั้งดาราฮอลลี่วู๊ด คนดัง ส.ส.และส.ว.ของเดโมแครต เรียกร้องให้มีการยกเลิกคำสั่งแบนดังกล่าว ซึ่งการชุมนุมประท้วงต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ วันอาทิตย์

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ได้ออกมาแถลงล่าสุด ระบุว่า คำสั่งของเขาไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับมุสลิม ไม่เกี่ยวกับมุสลิม แต่เป็นคำสั่งที่ป้องกันความปลอดภัยของสหรัฐฯ จากกลุ่มก่อการร้าย และยืนยันจะไม่ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว

อีกด้านหนึ่ง ได้มีปฏิกริยาตามมาจากประเทศที่มีคำสั่งแบน โดยอิหร่านได้มีคำสั่งตอบโต้ห้ามพลเมืองสหรัฐฯเข้าประเทศเช่นเดียวกัน