มาตรการ”ผ่อนปรน” บทพิสูจน์ ความร่วมมือ ร่วมใจ คนไทย

79
การผ่อนปรนมาตรการเพื่อป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะแรก ได้เริ่มขึ้นแล้ว แม้รัฐบาลยังมีมติให้คงอำนาจพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 ออกไปอีก จนถึงสิ้นเดือน พ.ค.2563
แต่ได้เปิดทางให้กิจกรรม และ กิจการ หลายอย่าง สามารถกลับมาให้บริการพี่น้องประชาชนได้ ภายใต้การคงไว้ซึ่งมาตรการทางสาธารณสุข
และจากการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) หรือ ศบค. ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค. ได้เคาะออกมาแล้วว่า เตรียมให้ผ่อนปรนระยะ ที่ 2 ตามมา
ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 17 พ.ค.นี้ แต่กว่าจะถึงการผ่อนปรนระยะที่ 2 ในระหว่างนี้ แน่นอนว่า ศบค.เองจะอยู่ในช่วงของการรับฟังและประเมินผล จากข้อมูลรอบด้านอย่างรอบคอบ ช่วงวันที่ 8-12พ.ค. จากนั้นในวันที่ 14พ.ค.จะมีการยกร่างทั้งข้อกำหนดและมาตรการผ่อนปรนต่างๆสำหรับระยะที่ 2แล้วจึงนำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีกันต่อไป
ทั้งนี้เงื่อนไขสำคัญ จึงยังคงต้องพิจารณาตัวเลข ผู้ติดเชื้อรายใหม่ว่า กว่าจะไปถึงวันที่ศบค.จะชงเสนอต่อผอ.ศบค. นั้นจะแปรเปลี่ยนไปสู่ตัวเลข “สองหลัก” หรือไม่ ?
โดยจากข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ในประเทศไทย ณ วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 3ราย ผู้ติดเชื้อสะสมขณะนี้ 2,992 ราย ใน 68 จังหวัด ยอดเสียชีวิตสะสม 55 ราย หายป่วยกลับบ้านได้เพิ่มอีก 11 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 2,772 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 165 ราย
จะเห็นได้ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 รายยังคงตรึงเอาไว้ที่ เลขหลักเดียวมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ก่อนวันที่ศบค.และครม. จะมีมติให้คลายล็อค ระยะแรกที่ผ่านมา ดังนั้น หากทุกคน ทุกฝ่าย ร่วมมือร่วมใจ “ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก” กันต่อไป ยืนระยะได้ยาวนานที่สุดเช่นนี้
โอกาสที่จะเกิดการผ่อนปรนมาตรการ การคลายล็อค เฟส 2 และ 3 จะตามมาได้ไม่ยากเย็น !

“ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรที่จะเป็นตัวเลขที่จะทะลุไปมากมายกว่านี้ วันที่ 17 พ.ค.ก็จะเป็นการเริ่มมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ต่อไป ซึ่งก็จะเป็นข่าวดีที่เราต้องไปด้วยกัน ดังนั้นกว่าจะถึงวันที่ 17 พ.ค. นี้ทุกท่านก็ต้องช่วยกัน วันนี้วันที่ 7 พ.ค. ถ้าเราทำกันอย่างดี วันที่ 17 พ.ค. คืออีก10 วันข้างหน้า เราก็จะเข้าสู่มาตรการระยะ 2 ได้ซึ่งระยะ 2 ก็คงจะเป็นกิจการขนาดใหญ่ขึ้น มีคนเข้าไปพลุกพล่านมากขึ้น หากกิจการขนาดเล็กที่มีความสำคัญกับชีวิตของเราเปิดแล้ว ไม่มีการทำให้ติดเชื้อมากมาย ระยะที่ 2 ก็จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับทุกคน ทั้งผู้ประกอบการและประชาชนผู้ใช้บริการต้องขอให้ความร่วมมือกันด้วย”
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์ศบค. ระบุ

อย่างไรก็ดี ปัญหาที่รัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีทุกกระทรวงเองที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำสงครามกับไวรัสโควิด จึงมีโอกาสที่จะ “แสดงฝีมือ” ไปพร้อมๆกับ “แก้มือ” แก้ไขความผิดพลาด ที่เคยสร้างปัญหา จนกลายเป็น “ช่องโหว่” ให้กับการบริหารจัดการของรัฐบาล

โดยเฉพาะกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ที่กำลังได้ต่อวีซ่า ต่อลมหายใจเพื่อแสดงผลงาน โชว์ฝีมือ ไม่เช่นนั้นแล้ว คลื่นลมทั้งทางการเมือง และกระแสจากสังคมที่พลาดหวังจากมาตรการเยียวยา กำลังรอกระแทกซ้ำแน่นอน

โดยเฉพาะเมื่อประเมินจาก บุคคลที่ไปร้องเรียนที่ กระทรวงการคลัง ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน !