ความคืบหน้ากรณียิงนายก อบต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี อย่างอุกอาจ ก่อนนำรถที่ใช้ก่อเหตุไปเผาอำพรางคดี จนท.ชุดสืบพบมีความขัดแย้งกันภายใน อบต. คาดปฏิบัติการรับจ้างฆ่า ไม่ใช่สถานการณ์ไฟใต้
วันที่ 13 ก.พ.60 มีความคืบหน้ากรณียิงนายก อบต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จนเสียชีวิต พ.ต.อ.มนตรี คงหวัดใหม่ ผกก. สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้เรียกพนักงานสอบสวน และสืบสวนคดีลอบยิงนายก อบต.ปิยามุมัง เพื่อติดตามไล่ล่ากลุ่มที่ก่อเหตุอุกอาจไม่เกรงกฎหมายบ้านเมืองมาดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวน สภ.ยะหริ่ง ระบุว่า คดียังไม่คืบหน้า เนื่องจากพยานไม่กล้าให้ปากคำเท่าที่ควร เพราะยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย คงต้องรอทางพนักงานสืบสวนที่ได้ลงพื้นที่เพื่อทำคดีนี้ให้กระจ่าง เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ
ล่าสุด วันที่ 12 ก.พ. ชุดสืบสวน สภ.ยะหริ่ง จึงได้พยายามแกะรอยติดตามกลุ่มคนร้าย จนสามารถพบรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถูกเผาทิ้งเอาไว้ข้างสระน้ำของโครงการฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ม.4 บ้านตามง ต.ราตาปันยัง ซึ่งเป็นรอยต่อกับ ม.4 ต.ตาลีอัยร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี คาดว่าอาจเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่จะสืบเสาะหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้
โดยจากการตรวจสอบพบเป็นรถของ นายนัฐธาวุธ ขวัญพัทลุง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/5 ม.6 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยเจ้าของอ้างว่าได้ขายไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงไล่ล่าผู้ครอบครองคนล่าสุดเป็นใคร เพื่อเป็นเบาะแสในการหาคนร้าย
ส่วนประเด็นสาเหตุทางพนักงานสืบสวน และสอบสวนได้ตั้งไว้หลายประเด็น และไม่ใช่สถานการณ์ไฟใต้ โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งภายในสำนักงาน อบต.ปิยามุมัง เอง ระหว่างผู้ตายกับเจ้าหน้าที่คลัง ถึงกับต้องมีนายทหารในพื้นที่เข้าเคลียร์มาก่อนแล้ว จากแหล่งข่าวระบุว่า นายทหารรายนี้ได้ใช้วาจาขู่ผู้ตายว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหน้าที่คลัง จะเข้ามาจัดการเสียเอง เพราะกระสุนปืนแค่เม็ดละ 14 บาท ไม่ได้แพงสักเท่าไหร่ ในระหว่างประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่
จนกระทั่งผ่านไปเพียง 1 เดือน จึงได้มีคนร้ายก่อเหตุอุกอาจยิงนายก อบต.ปิยามุมัง จนเสียชีวิตต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก สาเหตุที่นายทหารรายนี้ต้องเข้ามาเคลียร์ปัญหาระหว่างผู้ตายกับเจ้าหน้าที่คลังนั้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่คลังได้นำจดหมายขู่เอาชีวิตพาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองปัตตานี หลังจากก่อนหน้านี้ ผู้ตายในฐานะนายก อบต. เคยมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง จนกลายเป็นเรื่องที่รับรู้กันทั่วไปในพื้นที่ว่า ปมสาเหตุมาจากเรื่องใด ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องทำงานหนัก เพื่อสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้ และเพื่อเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย
นอกจากนั้น พนักงานสอบสวนยังมองประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองในพื้นที่ที่ยังไม่ค่อยลงตัว โดยกระแสที่จะเปลี่ยน อบต. มาเป็นเทศบาลในอนาคต หมายถึง 2 พื้นที่ต้องควบเข้าด้วยกัน จากตำแหน่งนายก 2 คน ก็ต้องเหลือเพียงคนเดียว ยิ่งทำให้ความขัดแย้งเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนอาจกลายเป็นชนวนเหตุที่มาของการฆ่าในครั้งนี้ แต่พนักงานสืบสวนและสอบสวนก็ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่นๆ