มหากาพย์ความขัดแย้งต้นสน’ กอ.กทม.’ ต้นตอปัญหา ไม่แก้แต่สร้างเพิ่ม ถึงคราวต้องปล่อย

1367

คณะกรรมการการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร กำหนดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดต้นสน ในวันที่ 13 กันยายน เป็นการคลายอำนาจหลังจากยึดครองมัสยิดแห่งนี้ มายาวนานอย่างน้อยก็ตั้งแต่ปี 2559 และสร้างความเสียหายให้กับมัสยิดมากมาย

คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ ไดเถอดถอนนายเฟาซัน หลังปูเต๊ะ ออกจากการเป็นอิหม่ามมัสยิดต้นสน เมื่อประมาณปี 2556 หรือเกือบ 10 ปีก่อน ได้นำไปสู่การฟ้องต่อสู้กันในศาลยาวนาน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้อิหม่ามเฟาซันชนะคดี แต่ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา มีคำสั่งให้กอ.กทม.ชนะคดี เมื่อปี 2560 อำนาจมาตกอยู่กับรักษาการอิหม่าม คอเต็บ และบืหล่านมัสยิดต้นสน เพียง 3 คน เป็นเวลา เกือบ 4 ปี

ส่งผลกระทบไม่เพียงต่อการบริหารมัสยิด แต่กระทบต่อการเรียนการสอนศาสนาและอัลกุรอ่านของบรรดาเยาวชนมัสยิดต้นสน ตลอดจนการใช้จ่ายของมัสยิด ที่ตามกฎหมายแล้ว รักษาการ 3 คนไม่มีอำนาจเบิกจ่าย และฟางเส้นสุดท้ายกลายเป็นระเบิดตูมขึ้นมา คือ กรณีการตัดต้นไม้ใหญ่ภายในมัสยิด

ฝีของมัสยิดต้นสนที่เบ่งบวมบวมมายาวนาน จากการกอ.กทม.ส่งคนที่ไร้ความรู้ ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพไปรักษาการใน 3 ตำแหน่งสำคัญของมัสยิดต้นสน และมีการกระทำที่ส่งผลให้มัสยิดได้รับความเสียหาย ได้แตกลง จากกรณีการโค่นต้นไม้ใหญ่ในมัสยิดในมัสยิด และรื้อ-สร้างลานจอดรถใหม่ ที่สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อสังคมทั่วไปและบรรดาสัปบุรุษของมัสยิดที่ถูกมองไม่เห็นหัวมายาวนาน

กอ.กทม.มีมติปลดอิหม่ามเฟาซัน พร้อมตั้งรักษาการ 3 คน มีวิบูลย์ มุขตารี กรรมการอิสลามกทม. รักษาการอิหม่าม ที่มีคนตั้งคำถามเรื่องความรู้ความสามารถเรื่องศาสนา ไม่ต้องพูดถึง นายปรีชา แสงวานิชย์ รักษาการคอเต็บประจำมัสยิด ที่ปกติไม่ค่อยได้เข้ามัสยิด ไม่สามารถทำหน้าที่อ่านคุตบะห์ได้ อ้านตะกุกตะกัก ซึ่งเจ้าตัวได้ออกคลิปยอมรับในทำนองว่า ไม่มีความสามารถเพียงพอ

เป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรงของ กอ.กทม. ที่แต่งตั้งคนที่ขาดความรู้ความสามารถ เข้ามาทำหน้าที่รักษาการ

คณะกรรมการอิสลามกรุงเทพฯ อ้างในการปลดอิหม่ามเฟาซัน พ้นตำแหน่งด้วยเหตุผลของการบริหารมัสยิด มีปัญหาเรื่องการใช้จ่ายเงินของมัสยิด แต่ถูกตั้งคำถามหนักเพราะคนที่ตั้งไปเป็นรักษาการอิหม่าม คือ นายวิบูลย์ มุขตารี เป็นเหรัญญิกสมัยนายเฟาซัน เป็นอิหม่าม การเข้าออกของเงินผ่านมือเขาทั้งหมด และเมื่อได้เข้าไปยึดกุมอำนาจการบริหารภายในตัวแทนกอ.กทม. กลับไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบ ตามที่มีการกล่าวหา สะท้อนกว่า การปลดอิหม่ามเฟาซันของกอ.กทม. มีวาระซ่อนเร้นตามที่มีกาารตั้งข้อสังเกตุหรือไม่

รอยยิ้มของกอ.กทม.บางคนที่สามารถเอาชนะได้ อาจจะต้องถูกสอบสวนหนักในัวนปรโลก

กลายเป็นว่า คนที่กอ.กทม.แต่งตั้งเข้าไป ยิ่งเลวร้ายมากกว่าเสียอีก ตัวอย่างการตัดต้นไม้ใหญ่ชัดยิ่งกว่าชัด โปรเจคท์รื้อลานจอดรถแล้วสร้างลานจอดรถก็ชัด และการอ่านคุตบะห์ไม่เป็นก็ชัด

นับเป็นผลงานชิ้นโบว์ดำของกอ.กทม.ที่เต็มไปด้วยผู้ทรงความรู้

แม้ว่า จะรู้ว่า มีปัญหา แต่กอ.กทม.ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงบุคคลที่ตั้งเข้ามา ไม่รู้ว่า กลัวเสียหน้า หรือทั้งสำนักงานหาคนมีคุณภาพไม่ได้ หรือไม่มีใครต้องการสังฆกรรมด้วย หรือว่า ปรีชา กุมความลับอะไรของใครไว้หรือไม่ ไม่เพียงเท่านั้น ยังกอดตำแหน่งไว้ถึง 4 ปี ไม่ยอมปล่อย เพื่ออะไร

ด้วยมัสยิดต้นสนมีรายได้มากหรือไม่ กอ.กทม.จึงไม่คิดปล่อย แม้จะเละเทะแค่ไหนก็ตาม เป็นคำถามที่บรรดาสัปบุรษมัสยิดต้นสนตั้งคำถาม

ที่ผ่านมาสัปบุรษของมัสยิด 1,200 คน ถูกมองข้าม จนเมื่อเกิดการตัดต้นไม้พวกเขาจึงออกมา คนรุ่นใหม่รุ่นหนุ่มที่จบการศึกษามาจากต่างประเทศ มีความรู้ดีทั้งด้านศาสนาและทางโลก พร้อมที่จะเข้ามาทำงาน แต่โอกาสกลับถูกปิดกั้น


ในขณะที่การบริหารมัสยิดโดยรักษาการ 3 คน ด้านหนึ่งขาดความรู้ความสามารถ แต่ด้านหนึ่งสุ่มเสี่ยงว่า จะขัดกับกฎหมาย การบริหารองค์กรอิสลามปี 2540 ที่ได้แยกหน้าที่ การบริหารมัสยิดไว้ชัดเจน ตำแหน่งทางศาสนา อิหม่าม คอเต็บ บิหล่าน กับคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดมัสยิดที่มีหน้าที่กำหนดไว้ชัดเจนในกฎหมาย อาทิ เหรัญญิก เลขานุการ เป็นต้น คนที่เป็นอิหม่าม คอเต็บ จะไปทำหน้าที่เหรัญญิกไม่ได้ การเบิกจ่ายเงินต้องมีการลงนามร่วมกันระหว่างอิหม่ามกับเหรัญญิก และกรรมการอีก 1 คน กรณีของมัสยิดต้นสน คณะกรรมการประจำมัสยิดหมดวาระ และกอ.กทม. ตีความกฎหมายไม่ให้รักษาการ เวลายาวนานเกือบ 10 ปีที่ไม่มีคณะกรรมการ จึงเกิดช่องว่างในการบริหาร หลังกอ.กทม.ชนะคดีในชั้นศาลฎีกาในการปลดอิหม่ามเฟาซัน เมื่อปี 2559

แต่กรณีของรักษาการ 3 คน มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ทั้งการกำหนดโครงการ การเบิกจ่าย รวมทั้งการตั้งเงินเดือนให้กับตัวเอง

ปรีชา แสงวานิชย์ ทำหน้าที่รักษาการคอเต็บ แต่บทบาทของเขา เหมือนจะอยู่เหนือ รักษาการอิหม่าม วิบูลย์ มุขตารี ผลักดันโครงการการใช้เงินหลายโครงการ รวมทั้งโครงการที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ และการเข้าไปยุ่งเกี่ยวในสถาบันสอนศาสนา

โดยหน้าที่ คอเต็บ หน้าที่ตามพ.ร.บ.การบริการกิจการอิสลามปี 2540 กำหนดให้มีหน้าที่ บรรยายธรรม หรืออ่านคุตบะห์เพียงอย่างเดียว ไม่มีหน้าที่ในการบริหาร และมีการแยกกันชัดเจนระหว่างอิหม่าม คอเต็บ และคณะกรรมการมัสยิด ไม่ให้ 2-3 ตำแหน่งที่กล่าวมา เป็นเหรัญญิก หรือตำแหน่งอื่น เพื่อเป็นการคานอำนาจในการบริหารภายในมัสยิด

ในมัสยิดต้นสน มีสถาบันที่ทำหน้าที่สอนจริยธรรมเยาวชน สอนฟัรดูอีนและอัลกุรอ่านให้กับบรรดาเยาวชนของมัสยิด เมื่ออิหม่ามเฟาซัน พ้นจากตำแหน่ง ได้เกิดสูญญากาศ ไม่มีการเรียนการสอนนานหลายเดือน จนมีสัปบุรุษบางกลุ่มไม่ต้องการให้ลูกหลานได้รับผลกระทบ จึงอาสาเข้ามาช่วยสอน สอนอยูได้ระยะหนึ่ง สัปบุรุษมัสยิดต้นสนเห็นว่า ปรีชา มีการบริหารไม่โปร่งใส มีการใช้อำนาจเกินกว่าอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย อาทิ การแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้อำนวยการสถาบัน กินเงินเดือน 20,000 บาท

มีคำถามว่า ใช้อำนาจอะไรในการอนุมัติตำแหน่งให้ตัวเองและตั้งเงินเดือนให้กับตัวเองและคนอื่น ในเมื่อกฎหมายกำหนดให้คอเต็บมีหน้าที่แค่อ่านคุตบะห์ บรรยายธรรม

น่าจะเป็นเรืองยาวที่อาจมีการการดำเนินการตรวจสอบในทางคดีหลังจากพ้นวาระไปแล้ว

จากปัญหานานัปการ เกิดแรงกดดันจากบรรดาสัปบุรุษที่ทนไม่ได้ที่ให้มีการเปลี่ยนแปลงในมัสยิดต้นสน ให้การเลือกคณะกรรมการฯ เพื่อเข้าไปบริหาร กอ.กทม.ไม่อาจทนแรงกดดันได้อีกต่อไป จึงได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการมัสยิดวันที่ 13 กันยายน โดยจะยังไม่เลือกอิหม่าม คอเต็บ และบิหล่าน

แม้จะไม่เต็ม 100 แต่ก็จะลดแรงกดดัน และลดความเสียหายที่เกิดกับมัสยิดดีกว่าให้ 3 คนบริหาร
ต้นสนยังมีเบื้องลึกเบื้องหน้าเบื้องหลังให้ติดตามอีกหลายเรื่อง ติดตามอ่านยาวๆไป

เสียงจากสัปบุรุษต้นสน