DSI บุกทลายเครือข่ายค้าหญิงส่งดูไบ ชวนไปทำงานนวด ถูกส่งเข้าซ่องบังคับค้าประเวณี

462

DSI จับกุมเครือข่ายนายหน้าจัดหาหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณี ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำสัญญากู้เงิน 60,000 บาท ชักชวนไปนวด แต่ถูกบังคับค้าประเวณี

ตามที่พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พันตำรวจโท สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำกับดูแลกองคดีการค้ามนุษย์ ให้ดำเนินการสอบสวน กรณี หญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (คดีพิเศษที่ 72/2562) โดยได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนคดีการค้ามนุษย์ 3 กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญา จำนวน 3 ราย ที่เป็นกลุ่มนายหน้า ผู้ชักชวนของขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติและหลอกลวงคนไทยไปค้าประเวณี ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นั้น พันตำรวจโท สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า คดีพิเศษดังกล่าว สืบเนื่องจากมูลนิธิพิทักษ์สตรี ได้รับแจ้งว่ามีหญิงไทย จำนวน 6 ราย เป็นเหยื่อ ถูกกลุ่มนายหน้าชาวไทยหลอกชักชวนไปทำงานนวด ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยอ้างว่าเป็นงานนวดที่มีรายได้ดี ไม่มีการบังคับ ให้ทำงานมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้าแต่อย่างใด เป็นการชักจูงใจให้หลงเชื่อ

ต่อมาเมื่อหญิงไทยทั้ง 6 ราย เดินทางไปถึง ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ถูกเจ้าของร้านชาวจีนยึดหนังสือเดินทางของทุกคนไว้ และได้พาไปทำงานที่ร้านนวด (แอบแฝง) แห่งหนึ่ง และบางรายถูกส่งนำไปทำงานที่ซ่องโสเภณี ในกรุงอาบูดาบี มีการบีบบังคับให้ต้องมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า หากไม่ยินยอมก็จะไม่มีรายได้ที่จะนำมาใช้หนี้ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเงินจำนวนประมาณ 62,700 บาท (ที่ระบุในสัญญายืมเงิน) ซึ่งเหยื่อได้เล่าว่า ก่อนเดินทาง ไปทำงาน จะมีนายหน้าชาวไทย นำสัญญาเงินกู้ให้ลงลายมือชื่อ เพื่อรับสภาพหนี้ ในสัญญามีเนื้อหาว่า หากไม่ชำระหนี้เงินกู้จะถูกดำเนินคดี โดยต่อมาเหยื่อได้หลบหนีออกจากสถานค้าบริการ และได้เข้าขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี เพื่อส่งกลับประเทศไทย และเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิ พิทักษ์สตรี โดยมูลนิธิฯ ได้พามาร้องเรียนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ติดตามสืบสวนในกรณีดังกล่าวมาโดยตลอด จนเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา จำนวน 3 ราย โดย 1 รายที่จังหวัดชลบุรีและอีก 2 รายในจังหวัดอุบลราชธานี ที่เป็นเครือข่ายนายหน้าในขบวนการจัดหาหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณี พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปที่ศาลอาญา ในวันที่ 22 มกราคม 2564 เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย ต่อไป

กรมสอบสวนคดีพิเศษมีความมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันและปราบปรามคดีด้านการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง จึงขอแจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อบุคคลซึ่งเป็นนายหน้าอ้างว่ามี งานนวดแผนไทยในต่างประเทศมีรายได้ดี อยู่สุขสบาย ไม่มีการบังคับขายบริการทางเพศ อาทิ ประเทศเกาหลี ประเทศมาเลเซีย หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศบาห์เรน เป็นต้น ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือทางสายด่วน 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ