ทหารตรวจเข้ม เลี่ยงเมืองยะลา เน้นพร้อมตอบโต้

93

ทหารวางกำลังเส้นทางเสี่ยงเขตเมืองยะลา หลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ เน้นย้ำเฝ้าระวังที่ตั้งพร้อมตอบโต้ หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงฐาน นปพ 18/04/2017 
วันที่ (18 เม.ย. 60) ส.ต.สุทธิพงศ์ ใจคำ ได้นำกำลังพลเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.15233 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 ออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในเส้นทางถนนตามย่านชุมชนเขตเทศบาลนครยะลา โดยเน้นตรวจสอบ ตรวจค้นบุคคลต้องสงสัย มีพิรุธ ที่ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ บุคคลภายในรถ รวมทั้งวัตถุสิ่งแปลกปลอมภายในรถ รวมทั้งยานพาหนะเป้าหมายที่แจ้งเตือน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่พกพากระเป๋า เพื่อป้องกันคนร้ายซึ่งอาจจะลักลอบนำวัตถุขนาดเล็ก หรือวัตถุระเบิดที่ซุกซ่อนมากับยานพาหนะ เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ย่านชุมชน การค้า เศรษฐกิจ สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ รวมทั้งเสาไฟฟ้าหลัก สร้างความอบอุ่นใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในห้วงสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์
ขณะตลอดห้วงที่ผ่านมา คนร้ายยังคงมุ่งหวังที่จะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยความมั่นคงได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวด และมีมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่และประชาชน ตามจุดเสี่ยงย่านการค้า ชุมชน สิ่งสาธารณูปโภค รวมทั้งเส้นทางเสี่ยง ฐานปฏิบัติการ เพื่อลดการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

ขณะศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 จังหวัดยะลา สรุปข้อมูลการปฏิบัติงานตั้งจุดตรวจ 19 จุด ใน 8 อำเภอ ผลการเรียกตรวจยานพาหนะ จำนวน 1,114 คัน ผลการดำเนินการ 10 มาตรการ ลดอุบัติเหตุทางถนน พบ ไม่มีใบขับขี่ 30 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 6 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร 4 ราย ขับย้อนศร 2 ราย ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ 2 ราย และรถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย 1 ราย

นายกาส เส็นโต๊ะเย็บ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า หลังจากจังหวัดยะลา ได้เปิดศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดยะลา ปี 2560 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2560 “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เพื่อประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชน ได้ร่วมกันรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สร้างความตระหนัก และความปลอดภัยในการเดินทาง โดยมีเป้าหมายจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บลดลงให้เหลือน้อยที่สุด
สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ สาเหตุเนื่องจากขับเร็วเกินกำหนด และขับขี่ตัดหน้ากระชั้นชิด ทัศนวิสัยไม่ดี รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย ขับขี่โดยประมาทและไม่สวมหมวกนิรภัย