กก.อิสลามกรุงเทพฯตีปี๊บคดีอิหม่ามเฟาซันฟ้อง 40 ล้านหลังศาลฎีกามีคำพิพากษา

509

วันเสาร์ 22 เม.ย. คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร (กอ.กทม.)กำหนดแถลงข่าวคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่ นายพัฒนา หลังปูเต๊ะ เป็นโจทก์ฟ้อง คณะกรรมการอิสลามประจำ กทม.และ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ณ โรงแรมรีเจ้นท์ ถ.รามคำแหง เวลา 14.00 น. โดยระบุในคำเชิญว่า เมื่อความจริงปรากฎ ความเท็จย่อมหายไป

สำหรับคดีที่อิหม่ามเฟาซัน ฟ้องกอ.กทม. กรณีถูกปลดจากตำแหน่ง โดยเรียกค่าเสียหายจากกอ.กทม. จำนวน 40 ล้านบาทนั้น ศาฃฎีกา ได้มีคำพิพากษา ที่ ๙๙๒๐/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ 11 เมษายน โดยอิหม่ามเฟาซัน หลังปูเต๊ะ เป็นโจทก์ ฟ้องกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร และกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย  รวม ๔๐ คนเป็นจำเลย มีกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร(กอ.กทม.)เป็นจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๒๑  และกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย(กอท.) เป็นจำเลยที่ ๒๒ ถึงที่ ๔๐   ต่อศาลแพ่งธนบุรี

มีสาระสำคัญโดยย่อว่า โจทก์ถูกนายมนูญพันธ์ รัตนเจริญ ร้องเรียนกล่าวหาต่อคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร(กอ.กทม.) ว่า โจทก์มีพฤติการณ์ที่นำมาซึ่งความเสียหายแก่มัสยิดต้นสน บกพร่องต่อหน้าที่  ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและประโยชน์ของมัสยิดต้นสนทั้งไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม พระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ.๒๕๔๐  จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๒๑ (กอ.กทม.)ได้พิจาณาวินิจฉัยมีมติและมีคำสั่งให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งอิหม่ามประจำมัสยิดต้นสน โดยไม่ให้โอกาสโจทก์ชี้แจงข้อเท็จจริงแก้ข้อกล่าวหา  จำเลยที่ ๒๒ ถึงที่ ๔๐(กอท.) มีมติยืนตามจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๒๑(กอ.กทม.)มติและคำสั่งถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งอิหม่ามไม่ชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของจำเลย ทั้งสี่สิบเป็นการกลั่นแกล้งโจทก์  ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังจากบุคคลทั่วไป  เป็นการละเมิดต่อโจทก์  ขอให้ศาลเพิกถอนมติที่ประชุมและมีคำสั่งที่ให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งอิหม่ามประจำมัสยิดต้นสน ให้โจทก์ดำรงตำแหน่งอิหม่ามประจำมัสยิดต้นสนต่อไป  และให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชำระค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท(สี่สิบล้านบาท)
จำเลยทั้งสี่สิบให้การต่อศาลทำนองเดียวกันโดยสรุปว่า  จำเลยทั้งสี่สิบไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์  เนื่องจากจำเลยทั้งสี่สิบปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของหลักการศาสนาอิสลาม  กฎหมาย  และระเบียบที่เกี่ยวข้อง  ไม่ได้กลั่นแกล้งโจทก์  โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหาย  ขอให้ศาลยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนมติและคำสั่งถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งอิหม่าม คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งสี่สิบอุทธรณ์  ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ และจำเลยทั้งสี่สิบฏีกา ศาลฎีกาพิจารณาแล้วฟังได้ว่ามติของจำเลย(คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย)ที่ให้ถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งชอบด้วยกฎหมาย  ระเบียบและหลักการศาสนา