การเมืองสงขลา หลังวิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ “นิพนธ์-สมยศ” ต้องกุมขมับคิดหนัก

การเมืองสงขลา หลังวิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ “นิพนธ์-สมยศ” ต้องกุมขมับคิดหนัก

มีคำถามมากมายว่าน้ำท่วมใต้ โดยเฉพาะหาดใหญ่ที่โหดร้าย รุนแรง กระทบการเมืองอย่างไร การเมืองในสงขลา /ขั้วนิพนธ์ บุญญามณี ได้ตัดสินใจแล้วย้ายไปภูมิใจไทย จะกลับใจได้ไหม ทันไหม มีสรรเพชญ บุญญามณี / สมยศ พลายด้วง ย้ายตามไปด้วย

เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน น้ำท่วมเป็นเหตุ รัฐบาลภายใต้อนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ถูกวิจารณ์หนักถึงความล้มเหลวในการบริหารภาวะวิกฤต
จะมีผลให้กลุ่มนิพนธ์ /สมยศ ตัดสินใจไม่ย้ายพรรคได้หรือไม่
-จะกลื่นเลือด หรือกลับคำ

สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้ โดยเฉพาะ สงขลา ไม่ได้เป็นแค่ภัยพิบัติธรรมชาติ แต่ส่งแรงสะเทือนทางการเมืองเป็น “โดมิโน” โดยเฉพาะ ขั้วนิพนธ์ บุญญามณี ที่ตัดสินใจย้ายไปพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แล้ว

1) การเมืองสงขลาที่กำลังสั่นไหว เดิมมีสัญญาณชัดว่า นิพนธ์ บุญญามณี ตัดสินใจย้ายไปภูมิใจไทย มีสรรเพชญ บุญญามณี และสมยศ พลายด้วง ตามไปด้วย

เตรียม “แพ็กทีม” ย้ายตามไปด้วย ถือเป็น “บล็อกการเมือง” ที่มีฐานคะแนนแข็งในเมืองสงขลา ย่านควนลัง–คอหงส์ และเครือข่าย อบจ./อบต.ที่เข้มแข็ง

การย้ายครั้งนี้เกือบจะลงล็อกอยู่แล้ว แต่…?

2) น้ำท่วมทำให้สถานการณ์เปลี่ยน สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น น้ำท่วมครั้งนี้กลายเป็น “ตัวแปรใหม่” เพราะประชาชนตั้งคำถามดังๆ ว่า

รัฐบาลภายใต้การนำของอนุทิน บริหารวิกฤตล้มเหลว
-แจ้งเตือนช้า /ไม่เน้นย้ำ
-การช่วยเหลือไม่ทัน
-ภาพรวมการประสานงานดูยุ่งเหยิง
-ท้องถิ่นต้องแก้ปัญหาเอง
-ภูมิใจไทยในฐานะพรรคเจ้ากระทรวงหลัก ถูกวิจารณ์หนัก
-ให้ข้าราชการเป็นแพะรับบาป

เมื่อรัฐบาลเสียภาพลักษณ์ คนที่กำลังจะย้ายเข้าภูมิใจไทย…ย่อมต้อง คิดหนัก คิดใหม่

3) คำถามสำคัญ: กลุ่มนิพนธ์–สมยศ จะ “กลืนเลือด” หรือ “กลับคำ”?

ปัจจัยที่อาจทำให้ “ไม่ย้าย”
1.กลัวถูกมองว่าเลือกพรรคผิดเวลา น้ำท่วมยังไม่ทันแห้ง ประชาชนกำลังโกรธรัฐบาล หากประกาศย้ายตอนนี้ ถูกด่าเละแน่
2.ภาพลักษณ์พื้นที่ในสงขลา ยังเป็นพื้นที่ที่คนให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อปัญหาน้ำท่วม ใครขยับผิดจังหวะ คะแนนหายทันทีแน่นอน
3.คะแนนเสียงฐานเดิมของนิพนธ์คอการเมืองสงขลารู้ดีว่า
ยี้ห้อ “บุญญามณี” การันตีได้ มีน้ำหนักในพื้นที่
แต่เสี่ยงถูกกัดเซาะคะแนน หากไปอยู่พรรคที่เพิ่งถูกวิจารณ์จากภัยพิบัติ
4.สัญญาณภายในภูมิใจไทยเอง ถ้ารัฐบาลไม่สามารถจัดการวิกฤตได้ดี ภูมิใจไทย (ภท.)อาจตกอยู่ในโหมด “ป้องกันความเสียหาย” มากกว่าดึงคนเข้า ภูมิใจไทยจะกู้วิกฤตได้ด้วยมาตรการฟื้นฟู-เยียวยา ที่เร็วและแรงพอ ไม่งั้นตายอย่างเขียด

4)แต่โอกาส “กลืนเลือด แล้วย้ายต่อ” ก็ยังมี มุมกลับคือ กลุ่มนิพนธ์อาจเลือก “เดินหน้าตามดีลเดิม” ด้วยเหตุผลคือ
-ดีลผลประโยชน์และพื้นที่เลือกตั้งอาจลงตัวไปหมดแล้ว
-การเมืองระดับชาติยังต้องรอดู “ปีเลือกตั้ง”
-ภท. อาจแก้วิกฤตได้บางส่วนในช่วงต่อไป
-กลุ่มนิพนธ์ต้องการพรรคที่ให้โอกาสทางการเมืองมากกว่าพรรคเดิม

สรุปว่า

แนวโน้มที่ 1 — กลับคำ ไม่ย้าย (50%)

น้ำท่วมส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์รัฐบาล–ภูมิใจไทย หากคะแนนเสียงในพื้นที่สะเทือนหนัก กลุ่มนิพนธ์อาจ “พับดีล” หรือ “ชะลอ” การย้าย

แนวโน้มที่ 2 กลืนเลือด แล้วย้ายต่อ (50%)

ถ้าดีลผลประโยชน์/พื้นที่ได้เปรียบมากกว่า และประเมินว่าคะแนนไม่เสียมากก็อาจเดินหน้าตามแผน แม้สถานการณ์จะไม่เอื้อ

ประโยคสรุปสั้นที่สุด

น้ำท่วมทำให้เกมย้ายพรรคของกลุ่มนิพนธ์–สมยศ “ไม่จบเหมือนเดิม” แต่เปิดโอกาสให้ทุกอย่าง “กลับตาลปัตร” ได้ทันที หากประชาชนโทษรัฐบาลหนักขึ้นเรื่อยๆ

แต่นักการเมืองไม่ควรชักเข้าชักออก ตัดสินใจแล้วเดินหน้า แพ้ชนะไปว่ากันในสนามเลือกตั้ง

#นายหัวไทร